ปิดตำนาน“เจ้าพ่อวังค้างคาว”“เฮียทง”อดีตคนสนิท“เสี่ยจิว” นักการเมืองชลบุรีร่วมอาลัย

ปิดตำนาน“เจ้าพ่อวังค้างคาว”“เฮียทง”อดีตคนสนิท“เสี่ยจิว” นักการเมืองชลบุรีร่วมอาลัย

           เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 20 กรกฎาคม 2564 ที่เมรุวัดใหม่พระยาทำ อ.เมือง จ.ชลบุรี ได้มีพิธีประชุมเพลิง “เฮียทง”นายเจิมทง มุทธากิจ  หรือที่คนเมืองชลในยุคนี้จะรู้จักกันในชื่อ “ป๋าทง”  โดยมีบรรดานักการเมือง-อดีตข้าราชการ-พ่อค้า-ประชาชนชาวชลบุรีจำนวนมากมาร่วมไว้อาลัยอาทิ นายประชา เตรัตน์ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีประชุมเพลิง  นายวิทยา คุณปลื้ม นายกอบจ.ชลบุรี นายมานิตย์ ภาวสุทธิ์ นายสง่า ธนสงวนวงศ์ ร.อ.จองชัย วงศ์ทรายทอง นายฉัตรชัย อั้งลิ้ม นายสมเจตน์ แสงปัญญาลิขิต นายอุทัย จตุพงศ์ นายบรรจบ สิงห์โตทอง  นายชูศักดิ์ สุวนันทนกุล นายรุ่งเรืองสิน  วงศ์ทรายทอง นายไพบูรณ์ พันธ์สนิท พ.ต.อ.อนันต์ ภู่ระหงษ์ นายจิรัฎฐ์ เสรีเกษมสันต์ นายบรรพต เพิ่มพูล ฯลฯ

        พลิกปูมประวัติ  “เฮียทง”เป็นลูกคหบดีใหญ่ในเมืองชลบุรี เจ้าของโรงสีสิริธัญญา เรียนจบการศึกษาระดับชั้นประถม แต่ก็มีความชำนาญในเรื่องการเดินศาลในยุคสมัยก่อน ทำให้ได้ไปรู้จักกับ “เสี่ยจิว”เพราะตัว “เสี่ยจิว”สมัยก่อนก็เป็นนักเล่นทำให้ต้องขึ้นศาลเป็นประจำ อีกทั้ง “เสี่ยจิว”ก็มีฐานะเป็นลูกเศรษฐีทำให้ทั้ง “เสี่ยจิว”กับ “เฮียทง” เริ่มสนิทสนมกันในร้านกาแฟ ก่อนจะมา กิน เที่ยว เล่นพนัน มาด้วยกัน

          เมื่อ“เฮียจิว”ก้าวขึ้นเป็นเบอร์ 1 ใน ยุทธจักรนักเลงชลบุรี โดยมีองครักษ์มือดีเป็นสมุนคู่ใจอาทิ “เฮียศักดิ์”  “เฮียเริ่ม” และ “ชัย ดำ” ทำให้บรรดานักเลงชลบุรีทุกสายต่างยอมซูฮกให้กับ “เฮียจิว”ที่เป็นคนใจร้อน มีความห้าวหาญ ไม่เกรงกลัวหน้าอินทร์หน้าพรหมใน จ.ชลบุรี

         “เฮียจิว” เข้ามามีบทบาททางการเมือง จ.ชลบุรี ตั้งแต่สมัย “เจ้าสัวบุญชู โรจนเสถียร” มาลงสมัครเลือกตั้งเป็น ส.ส.ชลบุรี มอบหมายให้ “เฮียจิว”เป็นหัวคะแนนใหญ่ช่วยหาเสียงให้  โดยมี “เฮียทง”รับหน้าที่เป็น “เสนาธิการ” เป็นผู้วางแผน เป็นผู้จัดการทุกเรื่อง ทำให้ “เจ้าสัวบุญชู”ได้เป็น ส.ส.ชลบุรีสมใจ  อีกทั้ง “เฮียทง”ยังเป็นคนแนะนำให้ “เสี่ยจิว”ดึง “ผู้ใหญ่เป๊าะ”นายสมชาย คุณปลื้ม ผู้ใหญ่บ้านต.แสนสุข ซึ่งในยุคสมัยนั้นยังมา กิน เที่ยว เล่น อยู่ในซุ้ม “เสี่ยจิว”ให้มาเป็นหัวคะแนนให้กับ“เจ้าสัวบุญชู”อีกต่างหาก  

          “เฮียทง”เมื่อทำงานใหญ่ได้สำเร็จ ก็ได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจาก “เสี่ยจิว”เพิ่มยิ่งขึ้น ทำให้ “เฮียทง”กลายเป็นเงาตามตัว “เสี่ยจิว” และได้เป็นผู้ดูแล ควบคุม ธุรกิจทั้งบนดินและใต้ดินของ “เสี่ยจิว” แทบทั้งหมด

          เมื่อสิ้นยุคเสี่ยจิว “เฮียทง”ก็เริ่มลดบทบาทของตัวเอง ไม่ว่าจะในทางการเมืองและนักเลง  เก็บตัวอยู่ที่บ้านพักข้างโรงสี แต่ก็ยังมี ตำรวจสายตรวจ-สายสืบ สภ.เมืองชลบุรี ที่เคยรู้จักกัน แวะเวียนไปมาหาสู่เป็นประจำ   “เฮียทง”เองพื้นฐาน เป็นคนมีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือคน แต่ไม่รังแกใคร  ก็จัดสรรข้าวปลาอาหาร น้ำดื่มไว้บริการตำรวจสายตรวจหัวปิงปอง ที่ในยุคสมัยนั้นไม่มีป้อมยามตำรวจเป็นที่พัก   เมื่อตำรวจสายตรวจมาที่บ้าน “เฮียทง” ก็จะวิทยุแจ้งศูนย์วิทยุเมืองชลบุรี บอกพิกัดว่ามา ว.10 ที่ “วังค้างคาว” ข้างศาลเจ้าพ่อลิง(ปัจจุปัน) เพราะจุดนั้นสมัยก่อนค้างคาวเยอะ   จะวิทยุบอกศูนย์วิทยุว่า มา ว.10 ที่ “บ้านเฮียทง” มองว่าภาพอาจไม่ดี จึงเป็นที่มาของการเกิด “วังค้างคาว” โดยตัว “เฮียทง” จึงต้องรับหน้าเสื่อเป็นหัวหน้า “ซุ้มค้างคาว”  เป็น “เจ้าพ่อวังค้างคาว”ไปชนิดเลี่ยงไม่ได้   หลังจากนั้น “วังค้างคาว” จึงเป็นจุดนัดของบรรดา ตำรวจ นักการเมืองท้องถิ่น นักเลง รวมไปถึงบรรดานักเล่น นักเสี่ยงดวง ในยุคสมัยนั้น   –

         “เฮียทง”กลับมามีบทบาททางการเมืองอีกครั้งเมื่อปลายปี 48-49  เมื่อสนับสนุนให้ “นายกแป๊ว”น.ส.สุมนา มุทธากิจ ลูกสาวคนที่ 2 ได้เป็น รองนายกเทศมนตรี ในสมัยที่ พล.ต.ต.นิตย์ อินทร์ทอง เป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองชลบุรี  ก่อนจะผลักดันให้ น.ส.สุมนา ลงเลือกตั้งนายกเทศมนตรี และได้เป็น นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองชลบุรี ในปี 2551 พร้อมกับ ลูกชาย “เสี่ยป้อม”นายพงศ์ธร มุทธากิจ ได้เป็น สมาชิกสภาเทศบาลเมืองชลบุรี

        “เฮียทง”มีความสนิทสนมกับ “เจ้าสัวเจริญ ศิริวัฒนภักดี”เป็นอย่างมาก เพราะเคยกินเที่ยวด้วยกันในสมัยหนุ่ม ๆ เมื่อ “เฮียทง”เสียชีวิต “เจ้าสัวเจริญ” จึงขอรับเป็นเจ้าภาพสวดศพ “เฮียทง”ทุกคืน

          วันอังคารที่ 20 ก.ค.64 เป็นวันปิดตำนาน “เจ้าพ่อวังค้างคาว”เจิมทง มุทธากิจ ด้วยวัย 88 ปี  ขอให้ดวงวิญญาณจงไปสู่สุขคติ