“นายกแป๊ะ” แจงโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดพัทยา งบอุดหนุนจากรัฐบาล สู่ศูนย์กลาง EEC อยากให้มองภาพรวม ยันต้นไม้เก่า 75%
“นายกแป๊ะ” แจงโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดพัทยา งบอุดหนุนจากรัฐบาล สู่ศูนย์กลาง EEC อยากให้มองภาพรวม ยันต้นไม้เก่า 75%
จากกรณีเมืองพัทยาได้ดำเนินโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ชายหาดเมืองพัทยาระยะทาง 2.7 กม. โดยว่าจ้าง บริษัท นงนุชแสนต์สเคป แอนด์ การ์เด้นดีไซน์ จำกัด ด้วยงบประมาณกว่า 166 ล้านบาท โดยดำเนินการปรับพื้นที่เปิดหน้างาน ก่อนมีกระแสเรียกร้องให้หยุดและพิจารณาโครงการใหม่ เนื่องจากมองว่าเป็นการทำลายธรรมชาติ และอยากให้มองในส่วนของความจำเป็นในการนำงบประมาณมาช่วยเหลือประชาชนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้น


เมื่อเวลา14.00 น.วันที่ 17 ส.ค.64 “เสี่ยแป๊ะ” นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ได้แถลงข่าวสื่อมวลชนชี้แจงความเข้าใจว่า โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ชายหาดเมืองพัทยาระยะทาง 2.7 กม.ตั้งแต่ชายหาดพัทยาเหนือถึงหาดพัทยาใต้ เป็นโครงการที่มีการต่อยอดมาจากโครงการเสริมทรายขยายพื้นที่ชายหาดเมืองพัทยาตามที่ได้ดำเนินการไปแล้ว โดยได้ร่วมกับกรมเจ้าท่าสำรวจข้อมูลการพัฒนาไปตั้งแต่ปี 2562 เป็นโครงการที่ได้รับการสนับสนุนงบอุดหนุนมาจากรัฐบาลในการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC ผลักดันให้เมืองพัทยาเป็นศูนย์กลางของ EEC ที่มีระบบการท่องเที่ยวที่ได้มาตรฐาน

ซึ่งได้ทำการศึกษาต่อเนื่องไปจนถึงชายหาดจอมเทียนที่จะมีการเสริมทรายขยายชายหาดและปรับปรุงภูมิทัศน์ด้วยเช่นกัน โดยได้ทำการสำรวจต้นไม้ทุกต้นที่มีอยู่ว่าอยู่ในจุดไหนบริเวณใด และได้มีการศึกษาออกแบบปรับแต่ง เคลื่อนย้าย และปลูกใหม่ เพื่อให้เกิดการใช้พื้นที่เป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งการดำเนินการก็เป็นไปตามระยะเวลาที่ได้ศึกษาไว้

นายกเมืองพัทยา กล่าวอีกว่า กรณีที่มีการรื้อถอนต้นหูกวางนั้น จะทราบกันดีในกลุ่มผู้ประกอบการชายหาดว่าต้นหูกวางเป็นไม้เนื้ออ่อนที่ปลูกง่ายโตเร็ว ผู้ประกอบการ จึงนำมาปลูกเพื่อให้ร่มเงา แต่ก็มีปัญหาในส่วนของต้นไม้ที่มีอายุมากขึ้น กิ่งไม้หักโค่นเวลาลมแรง ลูกหูกวางที่ผลัดลงมา รวมทั้งหนอนและวัชพืช เหล่านี้ก็สร้างปัญหาในกลุ่มผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับแต่งในส่วนที่หักโค่นและปลูกเพิ่มเพื่อให้เกิดความงดงาม รวมทั้งให้ร่มเงา และพื้นที่ยังสามารถใช้จัดกิจกรรมได้ ซึ่งอยากให้ประชาชนมองภาพรวมในการพัฒนา

สิ่งสำคัญคือการศึกษาออกแบบจะเน้นเรื่องการปรับภาพลักษณ์และทัศนียภาพให้เข้ากับบรรยากาศของชายทะเล ไม่ใช่ปลูกแต่ต้นปาล์มตามที่มีบางสื่อได้นำเสนอ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยการดำเนินการโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ชายหาดเมืองพัทยาจะรักษาต้นไม้เดิมไว้ไม่ต่ำกว่า 75% แต่มีการปรับปรุงให้มีความสวยงามและเหมาะสมในเรื่องของการใช้พื้นที่อย่างเกิดประโยชน์

ที่ผ่านมาก็ได้มีการทำประชาพิจารณ์เรื่องดังกล่าวไปแล้วตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ไม่สามารถจัดการประชุมให้ประชาชนจำนวนมากเข้าร่วมได้ จึงจัดทำประชาพิจารณ์โดยตรงกับกลุ่มเป้าหมายตามรัศมีของการดำเนินโครงการ รูปแบบเดียวกับโครงการอาคารจอดรถนาเกลือ เป็นการสำรวจข้อมูลในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยตรงกับประชาชนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการ

ในเรื่องของการช่วยเหลือในเรื่องของโควิด-19 นั้นเมืองพัทยาก็ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องการจัดสรรงบประมาณจัดหาวัคซีนซิโนฟาร์มเป็นวัคซีนทางเลือกมาให้บริการประชาชนท้องถิ่นเมืองพัทยา การปฏิบัติงานเชิงรุกในการค้นหาผู้ติดเชื้อเข้ารักษาในระบบ Hospitel การช่วยเหลือแจกจ่ายเยียวยา สนับสนุนถุงยังชีพให้ประชาชนตามบ้านเรือน รวมทั้งผู้ป่วยกักตัวไปแล้วนับหมื่นหลังคาเรือน

อยากให้แยกมองว่าเป็นคนละส่วนกันระหว่างการพัฒนาและการควบคุมโรค ซึ่งหากประชาชนมีข้อข้องใจก็พร้อมจะตอบทุกคำถามเพื่อความกระจ่างชัด ขอยืนยันว่าเมืองพัทยาจะไม่ใช้จ่ายงบประมาณในเรื่องอื่นที่ไม่จำเป็น
ภาพ/ข่าว อนันต์ สุขวัฒนะ เอกชัย สุขวัฒนะ ผู้สื่อข่าวภูมิภาคพัทยา จ.ชลบุรี