อธิการบดีมหาวิทยาลัยบูรพา ร่วมเป็นสักขีพยาน พิธีลงนามสัญญาจ้างและสัญญาเช่าพื้นที่ บริการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนม โครงการพัฒนาศูนย์บริการทดสอบทางการแพทย์จีโนมิกส์ฯ

      มหาวิทยาลัยบูรพา นำโดย รองศาสตราจารย์ ดร.วัชรินทร์ กาสลัก อธิการบดีมหาวิทยาลัยบูรพา พร้อมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณยศ คุรุกิจโกศล ผู้รักษาการแทนรองอธิการบดีฝ่ายกิจการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก  และภญ.ดร.ณัฏฐิณี ธีรกุลกิตติพงศ์ คณบดีคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลับูรพา ร่วมพิธีลงนามสัญญาจ้างบริการถอดรหัสพันธุกรรม โดย สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข ร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรือ EEC และกิจการร่วมค้าไทยโอมิกส์ เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 เวลา 09.30-11.00 น. ณ ห้องประชุมชัยนาทนเรนทร อาคาร 1 ชั้น 2 กระทรวงสาธารณสุข

ทั้งนี้ การจัดตั้งศูนย์บริการทดสอบทางการแพทย์จีโนมิกส์ เกิดขึ้นเพื่อดำเนินการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมของอาสาสมัครคนไทยภายใต้แผนงานจีโนมิกส์ประเทศไทย จากอาสาสมัครที่ร่วมโครงการ จำนวน

50,000 ราย โดยศูนย์บริการฯ นี้จะจัดตั้งขึ้นภายในอาคาร 10 ปี เภสัชศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ซึ่งคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) อนุมัติให้จัดตั้งเป็นเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ โดยปี 2563 ที่ผ่านมา ได้มีการเตรียมการมาอย่างต่อเนื่องทั้งการกำหนดรายละเอียดทางด้านเทคนิค และวิธีการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนม

นอกจากนี้ ความสำคัญของการพัฒนาการวิจัยด้านการแพทย์จีโนมิกส์ จะมีประโยชน์โดยเฉพาะทางการแพทย์ ที่จะศึกษาข้อมูลทางพันธุกรรม ค้นหาความผิดปกติบนจีโนมของประชากรไทยเพื่อเป็นฐานข้อมูลจีโนมอ้างอิง ตลอดจนเพื่อการศึกษาไปข้างหน้าแบบระยะยาว และเพื่อการวิเคราะห์ สังเคราะห์หาปัจจัยที่มีความเกี่ยวข้องระหว่างยีนกับสุขภาพ หรือการเกิดโรคต่าง ๆ โดยการถอดรหัสพันธุกรรมของคนไทยในแผนงานจีโนมิกส์ประเทศไทย มุ่งเป้าใน 5 กลุ่มโรค ได้แก่ กลุ่มโรคมะเร็ง โรคที่ไม่ได้รับการวินิจฉัยและหายาก โรคติดเชื้อ โรคไม่ติดต่อ และกลุ่มเภสัชพันธุศาสตร์ ป้องกันการแพ้ยาและการเลือกใช้ยาที่เหมาะสม

สำหรับการลงนามสัญญาดังกล่าว ภายใต้แผนงานโนมิกส์ประทศไทย เป็นความร่วมมือของหน่วยงานพันธมิตรรวม 22 หน่วยงานที่ร่วมขับเคลื่อน อาทิ อาทิ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)  สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (TCELS) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ทีมวิจัยคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ รวมไปถึงมหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนได้ร่วมกันขับเคลื่อนการวิจัยและพัฒนาการนำข้อมูลพันธุกรรมมนุษย์มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในด้านการแพทย์และสาธารณสุขของประเทศไทย