หวั่นสถานบันเทิงเมืองพัทยา แหล่งเพาะแพร่เชื้อไวรัสโควิด19

        ผู้สื่อข่าวรายงานว่าชาวเมืองพัทยาและนักท่องเที่ยว หวาดผวาแหล่งรวมสถานบันเทิงเมืองพัทยาจะกลายเป็นแหล่งแพร่บาดไวรัสโควิด19​ อีกทั้งยังจะเป็นรวมของบรรดาผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดระเบียบด่วน ก่อนที่เมืองพัทยาจะเสียภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยวระดับโลกไปมากกว่านี้

     ผู้สื่อข่าวเฉพาะกิจภาคตะวันออก รายงานว่า ได้รับการร้องเรียน และให้ข้อมูลว่า จากกรณีที่เมืองพัทยาได้มีการผ่อนปรนให้ผู้ประกอบการร้านอาหาร สามารถ จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้ข้อกำหนด ของมาตรการของภาครัฐ ผู้ใช้บริการที่เข้าไปต้องมีการตรวจ เอ.ที.เค ก่อนเข้าในบริเวณร้านอาหาร  อีกทั้งต้องเว้นระยะห่าง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 โดยเฉพาะสายพันธ์ใหม่ โอไมครอน ที่แพร่ระบาดง่ายกว่าสายพันธ์เก่า ซึ่งขณะนี้ในเขตเมืองพัทยาได้พบมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวัน ถึงแม้อาจจะไม่รุนแรงกับผู้ป่วยที่มีสุขภาพที่แข็งแรง แต่ก็ยังคงมีความเสี่ยงต่อผู้ที่มีโรคประจำตัว ซึ่งขณะนี้ผู้ประกอบการหลายร้านในพื้นที่พัทยาให้ความร่วมมืออย่างดี มีเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นที่ยังคงยึดหลักปฎิบัติที่ทางราชการกำหนด นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาใช้บริการจำนวนมากไม่เห็นด้วยกับการปล่อยปะละเลย ไม่เข้ามาตรวจสอบว่าสถานบริการได้ปฎิบัติตามกรอบกติกาที่ให้ไว้ และต้องปฎิบัติ

การที่ทางราชการได้มีการผ่อนปรน ถือว่าได้เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้มีรายได้ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน แต่ก็ยังมีผู้ประกอบการจำนวนหลายแห่งผ่าผืนกฎกติกา ปล่อยปะละเลยโดยมิได้คำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมาเหมือนในอดีต ที่เป็นบทเรี่ยนราคาแพงสำหรับผู้ประกอบการที่เห็นแก่ต้ว ขาดจิตสำนึกบางราย  ส่งผลให้ภาพรวมของเมืองพัทยาเสียหาย  ภาคธุรกิจพังระเนระนาด ล้มกันแบบโดมิโน่  ซึ่งขณะนี้ยังพบว่ามีสถานบริการบางแห่งภายในตลาด”ทรีทาวน์”ไม่ปฎิบัติตามกฎ กติกาที่ทางสารณสุขกำหนดไว้  ปล่อยให้นักเที่ยวเข้าใช้บริการอย่างหนาแน่น โดยหวังแต่เพียงรายได้ แต่ไม่คำนึงถึงโรคระบาดที่เป็นปัญหาระดับโลก จนประชาชนทนรับไม่ไหวอัดคลิปแฉ บรรยากาศ ร้านอาหารกลางตลาดทรีทาวน์ บัวขาว ที่ภาครัฐผ่อนปรน ให้สามารถเปิดได้ มีนักเที่ยวกว่าร้อยชีวิต เข้าใช้บริการแบบใกล้ชิดริมสระน้ำ ถ้าเมืองพัทยา และหน่วยงานที่รับผิดชอบไม่เข้าไปจัดระเบียบชนิดเร่งด่วน ภาพที่ออกไปสู่สายตาชาวไทย และต่างประเทศ จะส่งผลให้เมืองพัทยาเสียภาพลักษณ์ ไม่ใช้ระบบป้องกันอย่างเคร่งครัด

อีกเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมาก ก็คือ มีคนไทยที่อ้างตัวว่าเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย ทำร้ายนักท่องเที่ยวชราชาวต่างประเทศ จนได้รับบาดเจ็บ  โดยใช้เหตุผลว่านักท่องเที่ยวคนดัดงกล่าวมีอการมึนเมา ขาดสติ ตะเวนดื่มฟรี  ก็ได้มีพลเมืองดีพบเจอเหตุการณ์นี้่ ชาวต่างชาติวัยชราขอความช่วยเหลือ  พลเมืองดีคนดังกล่าวจึงนำตัวไปส่งที่พัก พร้อมทรัพย์สินเป็นเงินสดที่นำติดตัวมาจำนวนมาก และได้มีพยานเป็นชาวต่างชาติที่เห็นเหตุการณ์เล่าให้ฟังว่า เห็นพนักงานรักษาความปลอดภัย ต่อยชาวต่างชาติจนหงายหลังศีรษะฟาดเสาจนแตกเลือดอาบ ได้รับบาดเจ็บก่อนจะมีพลเมืองดีแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือส่งโรงพยาบาล นอกจากนี้ภายตลาดทรีทาวน์ แห่งนี้ ยังเกิดเหตุความรุนแรงมาแล้วหลายครั้ง ทั้งทำร้ายนักท่องเที่ยวภายในร้าน และเกิดเหตุกลุ่มผู้ดูแลทำร้ายกันเองจนถึงขั้นเสียชีวิต สร้างความหวาดผวาให้กับประชาชนในละแวกใกล้เคียงเป็นอย่างมาก เกรงอิทธิพลมืด จึงไม่กล้าออกมาต่อต้าน และร้องเรียน

สำหรับตลาดทรีทาวน์นั้นตั้งอยู่บนพื้นที่กว้างขวาง เป็นโซนสำหรับให้บริการเรื่องบันเทิง มีกลุ่มบาร์มากมายหลายสิบร้าน มีทั้งคนภายใน และภายนอกพื้นที่เดินทางไปใช้บริการเป็นจำนวนมาก ทำให้บริเวณริมทางมีรถจักรยานยนต์จอดริมถนนกันเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้การจราจรติดขัด ผู้ที่ต้องใช้ถนนเส้นนี้ในการสัญจรไปมาได้ไม่ได้รับความสะดวก ถ้าเกิดเหตุเพลิงไหม้ หรือเหตุร้ายใด ๆ การเข้า-ออก จะลำบากกว่าเดิมที่มีมา  รวมถึงเมื่อนักเที่ยวเดินทางเข้ามาเยอะสถานบริการบางร้านจึงคำนึงเรื่องรายได้เพียงอย่างเดียว  จึงไม่ปฎิบัติตามคำสั่ง อีกทั้งยังเปิดให้บริการเกินกว่า ที่ภาครัฐกำหนดคือ 23.00 น. และห้ามนักท่องเที่ยวบันทึกภาพทั้งหมดเพื่อไม่ให้มีการเผยแพร่ภาพทางโซเชียล เกรงจะเป็นหลักฐานให้เจ้าหน้าที่มาดำเนินคดีในฐานความผิดต่าง ๆ และ ยังพบพฤติกรรมต่างๆ ที่ส่อไปทางเรื่องของการชักชวนนักท่อเงที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติซื้อประเวณีอีกด้วย

ผู้สื่อข่าวเฉพาะกิจ ภาคตะวันออก