“อดีตรองนายก”ฟ้อง“นักการเมืองคนดัง”แชร์ข่าวเป็น“คนมีหนี้สินล้นพ้นตัว” ธุรกิจการค้าเสียหาย-ปชช.เข้าใจผิด
เมื่อเวลา 10.20 น.วันที่ 12 พฤษภาคม 2565 ที่ศาลจังหวัดชลบุรี นายสมเจตน์ แสงปัญญาลิขิต หรือ “รองหนู” อายุ 59 ปี บ้านเลขที่ 111/11196 ม.1 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี นักการเมืองท้องถิ่นชื่อดัง อดีตรองนายกเทศมนตรีเทศบาลต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี พร้อมกับนายเดชาวัต นามปราศรัย อายุ 50 ปี ทนายความส่วนตัว ได้เดินทางไปยังศาลจังหวัดชลบุรี เพื่อยื่นคำฟ้องเพื่อดำเนินคดีอาญากับ ผู้สื่อข่าวสื่อออนไลน์ นักการเมืองคนดัง และผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ที่ทำหน้าที่ควบคุมเพจข่าว รวม 3 คน
สืบเนื่องจากนายสมเจตน์ ผู้เสียหาย ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น รองนายกเทศมนตรีเทศบาลต.เสม็ด เมื่อวันที่ 3 พ.ค.64 และถูก นายกเทศมนตรี ปลดออกจากตำแหน่งรองนายกฯ เมื่อวันที่ 8 เม.ย.65 นายสมเจตน์ ซึ่งเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในพื้นที่เทศบาลต.เสม็ด มีพฤติกรรมช่วยเหลือสังคม จนเป็นที่ยอมรับของประชาชนในพื้นที่เทศบาลต.เสม็ด เคยได้รับการเลือกตั้งเป็น สมาชิกสภาเทศบาล เป็นที่ปรึกษาผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค.2 ดำรงตำแหน่งกรรมการศูนย์ยุติธรรมชุมชน กรรมการสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนชลราษฎรอำรุง และเป็น กรรมการผจก.บริษัทเจตน์เจริญการสุรา
เมื่อวันที่ 11 เม.ย.65 นักการเมืองคนดัง ได้แชร์ข้อความ นายสมเจตน์ผ่านแอพพลิเคชั่น LINE ถึงกลุ่มกิจการสภาเทศบาลต.เสม็ด มีสมาชิกสภาเทศบาลต.เสม็ด และปลัดเทศบาลต.เสม็ด มีใจความว่า “.. ทต.เสม็ดแจงปลดรองนายกฯ เหตุมีหนี้สินล้นพ้นตัว เกรงส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ เมื่อวันที่ 11 เม.ย.65 ทต.เสม็ด กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่มีคำสั่งปลดนายสมเจตน์ แสงปัญญาลิขิต ตำแหน่งรองนายกฯ พ้นตำแหน่ง… ในเรื่องนี้ได้มีกระแสออกมามากมาย เกี่ยวกับกรณีที่นายสมเจตน์ มีปัญหาเกี่ยวกับผู้รับเหมาก่อสร้างรวมทั้งเจ้าของโครงการหมู่บ้านในพื้นที่ จ.ชลบุรี จนเป็นเหตุให้มีคำสั่งปลด ซึ่ง ทต. กล่าวอีกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวข้องกัน สาเหตุที่ปลดเนื่องมาจากตนเองได้รับหนังสือสำคัญจากสำนักงานบังคับคดีจังหวัดชลบุรี แจ้งการยึดและขอให้แจ้งรายการภาษีประจำปีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างการค้างชำระ ตามหมายศาลจังหวัดชลบุรี ซึ่งทำให้มีหนี้สินล้นพ้นตัว ได้ปรึกษานิติกรได้รับการชี้แจงว่า อาจจะส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ จึงได้มีคำสั่งปลด นายสมเจตน์ กล่าวว่า ข้อความตามที่กล่าวหาว่า “คนมีหนี้สินล้นพ้นตัว”และเป็นสาเหตุจากการปลดออกจากตำแหน่ง ซึ่งข้อความดังกล่าวเป็นข้อความอันเป็นเท็จ ทำให้ตนเองเสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นดูเกลียดชัง ทั้งที่ตนเองยังมิได้เป็นบุคคลที่ถูกศาลสั่งให้เป็นบุคคลล้มละลายหรือตามประกาศในพระราชกิจจานุเบกษา ต่อมาเมื่อวันที่ 12 เม.ย.65 ผู้สื่อข่าวออนไลน์ Facebook ของสำนักข่าวทีวีออนไลน์แห่งหนึ่ง มีผู้ติดตาม 28,507 คน ได้โพสต์เฟสบุ๊ก ผู้สื่อข่าวออนไลน์และนักการเมืองคนดัง ได้แชร์ข้อความเรื่อง นายสมเจตน์ลงใน Facebook ส่วนตัว ความว่า #นายก..#แจงเหตุปลด#รองนายก#เพราะมีหนี้สินพ้นตัว #เกรงส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่เมื่อวันที่11 เม.ย.65
นายสมเจตน์ กล่าวอีกว่า การที่ถูกกล่าวหาว่าเป็น “คนมีหนี้สินล้นพ้นตัว”เป็นสาเหตุจากการที่ถูกนายกฯปลดออกจากตำแหน่ง ทำให้เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง บุคคลทั่วไปที่เข้าถึงอาจมองว่า รองนายกเทศมนตรีเทศบาลต.เสม็ด ในขณะนั้นขาดคุณสมบัติ หรือความสามารถที่จะเข้ามาบริหารดูแลประชาชนในพื้นที่ ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี ทั้งที่ยังมิได้เป็นบุคคลที่ถูกศาลสั่งให้เป็นบุคคลล้มละลาย การกระทำของ ผู้ที่กล่าวหาตนเองทั้ง 3 คน เชื่อว่ามีเจตนาใส่ความด้วยการโพสโฆษณาผ่านเพจ Facebook ทำให้มีคนหลงผิดเข้ามาแสดงความคิดเห็นเข้าอกเข้าใจให้กำลังใจ และการโพสต์ดังกล่าวเป็นการโพสต์แบบสาธารณะบุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ ตนเองจึงเกิดความเสียหาย เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ได้รับความอับอายไม่กล้าไปพบปะกับผู้คนและใช้ชีวิตดังเช่นปรกติ และไม่สามารถดำรงตนดังเช่นผู้ทรงเกียรติเสมือนเช่นที่ผ่านมา อีกทั้งธุรกิจการค้าของตนเองก็ได้รับผลกระทบเสียหาย เพราะตนเองมีรายได้จากกิจการร้านเหล้า ขายส่งและเครื่องดื่มชูกำลังมีรายได้ 2 แสนบาท / วัน การกระทำดังกล่าวทำให้ยอดขายลดลง ขาดรายได้เหลือเพียง 1 ใน 3 ของจำนวนเงิน 2 แสนบาท และสูญเสียจากการถูกปลดออกจากตำแหน่งรองนายกฯ ซึ่งขณะดำรงตำแหน่งได้รับเงินเดือน 38,000 บาทต่อเดือน จึงขอคิดค่าความเสียหายจำนวน 1 ล้านบาท จากผู้กระทำทั้ง 3 พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี ซึ่งศาลจังหวัดชลบุรีได้รับคำฟ้องและจะเรียกคู่กรณีมาไต่สวนมูลฟ้องคดีต่อไป