“บิ๊กอิท”แถลงข่าวตร.8 จว.ภาคตะวันออก ระดมกวาดล้าง 30 วันก่อนเทศกาลลอยกระทง ส่งผล คดีอาชญากรรมวันลอยกระทงเป็น 0
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 9 พ.ย.65 “บิ๊กอิท”พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ภ.2 พล.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ รอง.ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รอง.ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 แถลงผลการการกวาดล้างอาชญากรรม ระหว่างวันที่ 10 ต.ค. – 8 พ.ย.65
จากการที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค (APEC ระหว่าง วันที่ 14 ถึง 19 พ.ย.65 และด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน มีการก่ออาชญากรรมสะเทือนขวัญที่มีการใช้อาวุธปืน ในการกระทำความผิดอยู่บ่อยครั้งสร้างความสูญเสียแก่ชีวิต ทรัพย์สินและความหวาดกลัวภัยของประชาชนมากยิ่งขึ้น ส่งผลกระทบต่อสังคมและความสงบเรียบร้อยของประชาชน โดยรวม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จึงมอบหมายให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร เร่งรัดปราบปราม ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปิน อาวุธคราม วัตถุระเบิด และเครื่องกระสุนปืน ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และบุคคลตามหมายจับ ให้บังเกิดผลการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน และประเทศซาติ มีความสงบเรียบร้อย ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้ทุกหน่วย ในสังกัด ดำเนินการระดมกวาดล้างอาชญากรรม พร้อมกันทั้งประเทศ ระหว่างวันที่ 10 ต.ค. -8 พ.ย.65 ช่วงก่อนวันลอยกระทง
พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ภ.2 จึงได้สั่งการให้ตร.ในสังกัด8 จังหวัดภาคตะวันออก ชลบุรี ระยอง จันทบุรี, ฉะเชิงเทรา ตราด, นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว และ บก.สส.ภ.2 ระดมกวาดล้างอาชญากรรม โดยเน้นความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน อาวุธสงคราม เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ยาเสพติดและบุคคลตามหมายจับซึ่งจากการระดมกวาดล้างในห้วงดังกล่าว สามารถจับกุมผู้ต้องหาพร้อมตรวจยึดอาวุปืนของกลางในคดี ตลอดจนผู้ต้องหาที่กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดพร้อมของกลาง บุคคลตามหมายจับและตรวจยึดทรัพย์ได้เป็นจำนวนมาก
ตามรายละเอียดดังนี้
1. จับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับคดีอาวุธปืน จำนวน 1,103 ราย ผู้ต้องหา 1,045 คน อาวุธปืน รวมจำนวน 912 กระบอก อาวุธปืนสงคราม จำนวน 2 กระบอก
วัตถุระเบิด 29 ลูก ปืนไม่มีทะเบียน จำนวน 713 กระบอก กระสุนปืน 44,764 นัด ปืนมีทะเบียน จำนวน 197 กระบอก อาวุธปืนจำหน่ายทางออนไลน์ จำนวน 2 กระบอก
2.จับกุม/ตรวจยึดยาเสพติด 2,863 ราย ผู้ต้องหา 2,892 คนข้อหา สมคบ จำนวน 1 ราย ผู้ต้องหา 1 คน จำหน่าย จำนวน 180 ราย ผู้ต้องหา 201 คน ครอบครอง จำนวน 521 ราย ผู้ต้องหา 531 คน เสพ จำนวน 2,161 ราย ผู้ต้องหา 2,161 คน ของกลางยาบ้าจำนวน 191,677 เม็ด ยาไอซ์ จำนวน 4.069 กิโลกรัม ตรวจยึดทรัพย์สินผู้ค้ายาเสพติด จำนวน 237 รายการ มูลค่า 16,879,917 บาท เงินสด จำนวน 11 รายการ มูลค่า 2,167,760 บาท รถยนต์ จำนวน 23 คัน มูลค่า 11,215,000 บาท รถจักรยานยนต์ จำนวน 36 คัน มูลค่า 1,800,000 บาท อาวุธปืน จำนวน 59 กระบอก มูลค่า 727,000 บาท ทองรูปพรรณ จำนวน 5 รายการ มูลค่า 320,000 บาทโทรศัพท์มือถือและอื่นๆ จำนวน 103 รายการ มูลค่า 650,157 บาท
3. จับบุคคลตามหมายจับ จำนวน 822 คดี ผู้ต้องหา 822 คน มีคดีสำคัญ ดังนี้ คดีฆ่าผู้อื่น 2 คดี คดีปล้นทรัพย์ 3 คดี คดีชิงทรัพย์ 10 คดี
พล.ต.ท.อิทธิพล กล่าวว่า “ผลของการระดมการกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่ในช่วง 30 วัน สามารถจับอาวุธปืน ปืนสงคราม วัตถุระเบิด กระสุนปืน ความผิดพรบ.ยาเสพติด บุคคลตามหมายจับได้เป็นจำนวนมาก เมื่อวานนี้ที่ สภ.บ้านนา จ.นครนายก ก็ได้มีการจับกุมยาเสพติดรายใหญ่จำนวน 1 แสนกว่าเม็ด จากผลของการระดมการกวาดล้างอย่างต่อเนื่องจริงจัง สังเกตได้ว่า ในวันลอยกระทงเมื่อวาน(8พ.ย) ไม่มีเหตุเลยใน 8 จังหวัดภาคตะวันออก สาเหตุเราตัดแขนตัดขา เราเน้นเรื่องรถผิดกฎหมายที่ใช้วิ่งในทาง โดยเฉพาะรถจยย.ไม่มีคนร้ายคนไหนที่จะเดินแล้วไปยิงเขาแล้วเดินกลับบ้าน ใช้รถใช้อาวุธปืนผิดกฎหมายอย่างเดียว เพราะฉะนั้นตรงนี้คือการตัดช่องโอกาส นโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติทำก่อนเกิดเหตุ ส่วนมาตรการต่อไปคือการตั้งด่านบริเวณโดยรอบ เรามีพื้นที่ตะเข็บติดกับทางนครบาล ทางฉะเชิงเทรา ชลบุรี นครนายก เราได้ตั้งจุดด่านความมั่นคงแล้วก็สามารถตรวจพบอาวุธปืนและบุคคลตามหมายจับหลายราย เป็นการเฝ้าระวัง สกรีนคัดกรองสิ่งของที่ผิดกฎหมายไม่ให้เข้าชั้นใน ทั้งนี้ขอความร่วมมือประชาชนในการแจ้งข้อมูล เบาะแส แจ้งข่าวอาชญากรรม ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ หมายเลขโทรศัพท์ 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง