สนธยา โพสต์เฟสบุ๊ก ร้อง สตช.ตรวจสอบการทำงานของตร.ชลบุรี เพื่อความโปร่งใสและเป็นธรรม
นายสนธยา คุณปลื้ม แม่ทัพบ้านใหญ่ชลบุรี ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย อันดับ 99 โพสต์เฟสบุ๊ก หลังจาก ตร.สภ.แสนสุข ได้ออกหมายเรียกให้ “สท.เหี่ยว”นายภาสกร หอมหวล ผู้ช่วยหาเสียง “สจ.แอ้”น.ส.สุภีพันธุ์ หอมหวล ผู้สมัคร ส.ส พรรคเพื่อไทย เขต1 ชลบุรี “อดีตนายกเอก” นายฉัตรชัย อั้งลิ้ม ผู้สมัครส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต.2 ชลบุรี นางภัทราพร หอมหวล ภรรยา สท.เหี่ยว ให้มาพบพนักงานสอบสวน ในวันที่ 8 พ.ค.66 เวลา 10.00 น ที่ สภ.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี
เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกรพทำความผิดฐานฟอกเงิน เพราะเหตุที่มีการสมคบกันโดยการโอน รับโอน หรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่ เกี่ยวกับการกรพทำความผิดเพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาความผิดของทรัพย์สิน หรือกระทำด้วยประการใดๆเพื่อปกปิด หรืออำพรางลักษณะที่แท้จริงการได้มาตำแหน่งที่ตั้ง การจำหน่าย การโอน การได้สิทธิใดๆซึ่งทรัพย์สิน ที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ได้มาครอบครอง หรือใช้ทรัพย์สิน โดยรู้ในขณะได้มา ครอบครอง หรือใช้ทรัพย์สินนั้นว่าเป็นทรัพย์สินที่ เกี่ยวกับการกระทำความผิด ตามพระราชบัญญัติการป้องกันและ ปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3(9) 5(1) (2) (3) 9 60 “
มีเนื้อหาว่า “เรียนพี่น้องประชาชน ผู้รักความยุติธรรม ในกรณีที่ตำรวจสภ.แสนสุข ออกหมายเรียก นายภาสกร หอมหวล บิดาของสจ.แอ้ ผู้สมัครสส.เขต1 และ นายฉัตรชัย อั้งลิ้ม ผู้สมัครสส.เขต 2 ให้เข้าพบพนักงานสอบสวนอ้างว่าเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ AMB4568 นั้น ผมอยากเรียกร้องให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เข้ามาตรวจสอบการดำเนินการในเรื่องนี้ของตำรวจในพื้นที่ ว่ามีความโปร่งใสหรือไม่ และมีการเลือกปฏิบัติกับพรรคเพื่อไทยเพื่อหวังผลทางการเมืองในช่วงการเลือกตั้งหรือไม่
ทั้งนี้ เนื่องจากกรณีการตรวจสอบเว็บพนัน AMB4568 นั้น ทางสภ.แสนสุข ได้ยื่นเรื่องต่อศาลจังหวัดชลบุรีไปแล้ว เพื่อขอออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องจำนวน 21 คน แต่ปรากฏว่าส่วนหนึ่งไม่มีหลักฐานเพียงพอ ศาลชลบุรีจึงไม่อนุมัติ โดยเฉพาะกรณีของ นายภาสกร หอมหวล และ นายฉัตรชัย อั้งลิ้ม แต่ทางตำรวจกลับมีหมายเรียกให้เข้าพบพนักงานสอบสวนในช่วงนี้ พร้อมตีข่าวเผยแพร่ทางสื่อมวลชนจนเกิดความเสียหาย
กลุ่มนักการเมืองฝ่ายตรงข้าม มีความพยายามใช้อำนาจตำรวจและเจ้าหน้าที่รัฐ ออกไปบีบบังคับหรือข่มขู่ให้กลุ่มผู้สนับสนุนเกิดความหวาดกลัว เพื่อหวังทำลายพรรคเพื่อไทยชลบุรีทุกวิถีทางมาโดยตลอดนับตั้งแต่เดือนเมษายน จนกระทั่งถึงวันนี้ที่ใช้อำนาจตำรวจออกหมายเรียกหวังดิสเครดิตและทำลายชื่อเสียง เพียงเพื่อต้องการชัยชนะทางการเมือง
ดำเนินการเป็นขั้นเป็นตอน เหมือนวางพล็อตหนังแอ็คชันเอาไว้ เช่น มีการปล่อยข่าวผ่านสื่อในเครือข่าย จากนั้นตำรวจในพื้นที่ก็ดำเนินการและปล่อยข่าวว่าออกหมายเรียก จงใจให้เกิดเป็นประเด็นในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง ผมจึงหวังให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้ามาตรวจสอบพฤติกรรมดังกล่าวว่าได้ดำเนินการด้วยความโปร่งใสและเป็นธรรมหรือไม่ ขอให้สังคมร่วมกันตรวจสอบและติดตามพฤติกรรมของนักการเมืองกลุ่มนี้ อย่ายินยอมให้นักการเมืองกลุ่มนี้ใช้อำนาจเหนือกฎหมายได้อีกต่อไป