“ผกก.โจ”นำทีมตร.ชลบุรี ลุยกวาดล้างโรงงานส่งออกตีนไก่เถื่อน แก๊งจีนแคระ อ.กระทุ่มแบน

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจาก ตร.สืบสวนจ.ชลบุรี ได้จับขบวนการลักลอบค้าตีนไก่เถื่อน ที่ไม่มีใบควบคุม จำนวน 1 ตู้คอนเทนเนอร์ น้ำหนักประมาณ 42 ตัน ได้ทึ่เขตพื้นที่ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี  แต่ได้มี รถบรรทุกขนตีนไก่ ใส่ตู้คอนเทนเนอร์จำนวนอีกคันหนึ่ง หลบหนีไปได้  มีรายงานว่าขณะนี้ รถคอนเทนเนอร์ขนตีนไก่คันดังกล่าว ได้นำตู้คอนเทนเนอร์บรรจุตีนไก่ ไปส่งไว้ที่ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่ง จนท.ตร.สืบสวนจ.ชลบุรี อยู่ระหว่างดำเนินการขออายัดตู้บรรจุตีนไก่มาเพื่อตรวจสอบ เพราะหากลักลอบส่งออกไปต่างประเทศได้จะมีมูลค่ามหาศาล 

      หลังจากมีการขยายผล  การจับกุมขบวนการสวมสิทธิ์ตีนไก่เถื่อน (แก็งจีนแคระ) โดยแนวทางการสืบสวน คาดว่าอาจมี บิ๊ก ขรก.ที่มึอำนาจคอยเอื้อประโยชน์  เพราะมีการเปิดไฟเขียวในทุกๆขั้นตอน เพื่อให้การผลิตและขนย้ายชิ้นส่วนไก่ได้อย่างสะดวก  

      แต่ขบวนการค้าตีนไก่เถื่อนต้องมาสะดุด เพราะ ”ผกก.โจ” นายตำรวจมือปราบ ที่ไม่ยอมรับเงินค่าเคลียร์เส้นทางให้กลุ่มจีนแคระ

     ล่าสุด ”ผกก.โจ” ได้เข้าตรวจค้นแหล่งผลิตชิ้นส่วนไก่  โดยร่วมกับจนท.ปศุสัตว์ ที่ บริษัทหัวหินอินเตอร์ฟูดส์ ที่ อ.กระทุ่มแบน พบของกลางเป็นชิ้นส่วนไก่เพิ่มเติมมากกว่า 30 ตัน มีทั้งที่ติดสติ๊กเกอร์แล้วเป็นของเบทาโก และกำลังขยายผลต่อไปยังผู้อยู่เบื้องหลังหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี   ในส่วนตู้คอนเทนเนอร์ บรรจุชิ้นส่วนไก่ ซึ่งจนท.ตร.คาดว่าน่าจะอยู่ที่ท่าเรือแหลมฉบัง จำนวนอีก 1 ตู้  อยู่ระหว่างรอการอายัดเพื่อตรวจสอบ โดยจนท.ตร.ได้ประสานขอข้อมูล ที่ด่านศุลกากร ท่าเรือแหลมฉบัง  เพราะสงสัยว่าจะใช้ชิปปิ้งเจ้าเดียวกันจองพื้นที่   มีรายงานว่าแต่ขณะนี้แก๊งค์จีนแคระไหวตัวทัน ได้ดึงตู้ออกจากท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อไม่ให้ตร.ชุดสืบหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ 

     ตร.สืบสวนจ.ชลบุรี ได้สืบสวนในทางลับพบว่า นอกจากบริษัท ทศทิศ แล้ว ยังมี บริษัท พูลทรัพย์ 2023 เป็นผู้ต้องสงสัยอีกรายหนึ่ง เพราะจากการเชื่อมกัน  ทำให้เห็นได้ว่าขบวนการนี้ เป็นขบวนการใหญ่ระดับประเทศ  มียอดการส่งออกสูง เมื่อเทียบของปีที่เเล้ว กับปีนี้  ที่ยอดส่งออกไก่ไปยังประเทศจีน สูงขึ้นถึง 100 %  ซึ่งในความเป็นจริงไม่มีทางเป็นไปได้ เนื่องจาก ปริมาณลูกไก่ในประเทศไทยลดลง  สวนทางกับยอดการส่งออกที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว  อีกทั้งขั้นตอนการส่งออกไปยังประเทศจีน ต้องผ่านพิธีการศุลกากรและการตรวจสอบหลายขั้นตอน  ตั้งแต่สินค้าออกจากโรงงานโดยมีหมอประจำโรงงานตรวจสอบการผลิตรวมถึงเป็นผู้อนุมัติในการออกเอกสาร อาทิเช่น ใบ สผส. Checklist  เป็นต้น และเอกสารทั้งหมดนี้ยังต้องนำไปยื่นผ่านด่านกักสัตว์ชลบุรี เพื่อออกใบอนุญาตนำออกนอกราชอาณาจักร ซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์(ร.9) ที่น่าสงสัยกว่านั้นคือ ปรกติจะออกใบ

ที่เค้าเตอร์ศุลกากร จำเป็นต้องมีใบร.9 ก่อนจึงออกไป ร.10ได้ แต่ตรวจจับกุมวันนั้นใบคือใบ ร.10 ที่ออกมาจากศุลกากร   ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ทางจนท.ศุลกากร ก็ให้ ความร่วมมือด้านข้อมูลการส่งออกชิ้นส่วนไก่กับตร.ชุดสืบสวนจ.ชลบุรี  เพราะการส่งออกชิ้นส่วนไก่นั้น จะทำได้ต่อเมื่อมีเจ้าหน้าที่นายด่าน มีส่วนรู้เห็น ส่วนคนที่จะสั่งต้องมีเส้นสายเท่านั้น และต้องมีความเชืีอมโยงกับกลุ่มจีนแคระหรือไม่   ส่วยจนท.ปศุสัตว์ จะต้องตอบคำถามด้วยว่า ทำไมตลาดชิ้นส่วนไก่ถึงได้โตขึ้นเป็นเท่าตัว  เพราะถ้าโตขึ้นจริงตามกระบวนการ  ก็เป็นการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ  แต่น่าสงสัยว่าเป็นการโตแบบไม่ถูกต้องหรือว่าจะโตเฉพาะแก๊งค้าตีนไก่จีนแคระ  ที่คนสั่ง ”ฉายาเก้าเลี้ยว” ซึ่งมี บิ๊กขรก. เป็นแบ็คให้   และต่อให้มีการปลอมแปลงเอกสารทุกอย่าง ตั้งแต่ต้นกระบวนการ จนถึงการออกเอกสาร Health Certificate (HC) แต่จะมีการอนุมัติ Electronic Health Certificate (E-HC) ที่จำเป็นต้องส่งจากกรมปศุสัตว์ จะสามารถส่งไปถึงประเทศจีนได้อย่างไร

คนที่สั่งการได้ทีเดียวทั้งสองส่วนนี้เป็นใคร  ที่มีอำนาจ ส่วนข้อมูลเพิ่มเติมอีก1 บริษัทที่สงสัยนั้น เพื่อเป็นการยืนยันว่า ไม่ได้มีแค่บริษัททศทิศ ยังมีอีกหลายชิพเปอร์ แต่รอบนี้คือ พูลทรัพย์2023  และเชืีอว่ายังมีอีกหลายบริษัท ที่มีการลักลอบผลิต ออเดอร์

      เรื่องน่าสังเกตุอีกเรื่องหนึ่งคือตอนจับกุมรถขนส่งสินค้า   มีแต่ทีมตร.สืบสวนชลบุรี ทึ่จับกุม แต่ตอนถ่ายภาพในการจับกุม และการนำภาพส่งต่อสื่อมวลชน กลับมีจนท.ที่ไม่ได้จับปรากฏอยู่ในภาพถ่าย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *