ชาวบ้านมาบไผ่ดมกลิ่นขยะจนป่วย รถขยะขนขยะมาทิ้งทั้งวันทั้งคืน เตรียมรวมตัวร้องผวจ.ชลบุรี
ชาวบ้านมาบไผ่ดมกลิ่นขยะจนป่วย รถขยะขนขยะมาทิ้งทั้งวันทั้งคืน เตรียมรวมตัวร้องผวจ.ชลบุรี
จากกรณี น.ส.วัลยา ภัครวิริยสกุล อดีตผู้สมัครส.อบจ.ชลบุรี “คณะก้าวหน้าเปลี่ยนชลบุรี” ได้ร้องเรียน สื่อมวลชนว่ามีชาวบ้านในพื้นที่ ม.1 ต.มาบไผ่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ได้รับความเดือดร้อนจาก โรงงานรีไซเคิลขยะแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.1 โดยก่อนหน้านี้โรงงานแห่งนี้จะรับซื้อขยะตามโรงงานมาคัดแยกแล้วนำไปขาย ต่อมาในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ได้รับขยะเปียกจากเทศบาล-อบต.ในพื้นที่ จ.ชลบุรี และบางเทศบาลใน จ.ระยอง ปัญหาที่สร้างความเดือดร้อนก็คือ
รถขยะจะขนขยะมาทิ้งในช่วงกลางวันทำน้ำขยะไหลลงพื้นถนนส่งกลิ่นเหม็น พอมีชาวบ้านร้องเรียน ก็เปลี่ยนเวลาขนขยะมาทิ้งช่วงตี 2 ถึงตี 5 ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากเสียงวิ่งของรถขยะ เมื่อรถขยะนำขยะไปกองทิ้งไว้ภายในโรงงานซึ่งเป็นพื้นที่โล่งแจ้ง กลิ่นขยะก็ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณชุมชนใกล้เคียง มีชาวบ้านม.1 ได้ร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรม อ.บ้านบึง ร้องเรียนไปที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ อบต.มาบไผ่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ในเรื่องกลิ่นเหม็นของบ่อขยะ รบกวนชาวบ้านทั้งเวลากลางวัน-กลางคืนส่งผลต่อสุขภาพของชาวบ้านข้างเคียง บางรายถึงต้องป่วยต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมอบต.มาบไผ่ เข้าไปตรวจสอบโรงงานพบว่ามีกองขยะที่คัดแยกแล้วอยู่จำนวนมาก ส่งกลิ่นเหม็นตามที่ร้องเรียนจริง
ทางโรงงานได้ทำตามบันทึกข้อตกลงไว้ให้กับชาวบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มสเปรย์น้ำ ฉีดพ่นน้ำยาดับกลิ่น กั้นแนวกำแพงเพื่อกันกลิ่น สร้างโรงงานในรูปแบบปิด ขนย้ายขยะที่รีไซเคิลไม่ได้ออกจากพื้นที่ทั้งหมด หรือการแก้ปัญหาไม่ให้รถขนขยะเปียกทำน้ำขยะตกหล่นบนเส้นทางถนน ทำความสะอาดถนนที่รถขนขยะทำน้ำขยะตกหล่น แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ทำตาม ขยะก็ยังคงกลิ่นเหม็นทำลายสภาพแวดล้อมภายในชุมชนที่พัก จึงขอให้นายพิสิษฐ สิริสวัสดินุกูล นายอำเภอบ้านบึง นายโรจนินทร์ ศิริเบญญาภิรมย์ นายกอบต.มาบไผ่ มาตรวจสอบในเรื่องใบอนุญาต และดำเนินการแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ต่อมาเมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 28 มกราคม 2664 น.ส.วัลยา ภัครวิริยสกุล พร้อมด้วย นายวิเชียร สุขประเสริฐ อายุ 41 ปี นายไพฑูรย์ แกล้วกล้า อายุ 50 ปี ตัวแทนชาวบ้าน ม.1 และชาวบ้านอีกประมาณ 10 คน ได้รวมตัวกันที่บริเวณด้านข้างโรงงานรีไซเคิลขยะ พร้อมกับร้องเรียนความเดือดร้อนผ่านผู้สื่อข่าวว่า “ปัญหาในเรื่องกลิ่นขยะทำให้เกิดปัญหากับชาวบ้านในเรื่องสุขภาพร่างกาย เปิดประตูหน้าต่างบ้านกันไม่ได้เพราะมันเหม็น ในชุมชนมีทั้งเด็ก ผู้สูงอายุ บางคนต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเพราะต้องสูดดมกลิ่นขยะตลอดเวลา ความเดือดร้อนเรื่องกลิ่นเหม็นเป็นมานานตลอด 2 ปี ก็เคยมีการพูดคุยกับเจ้าของโรงงานแต่สุดท้ายก็เหมือนเดิม
โรงงานแห่งนี้ตั้งมาประมาณ 2-3 ปี เมื่อก่อนกลิ่นขยะไม่มากเท่านี้เพิ่งจะมารุนแรงในช่วง 2 ปีหลัง ทางโรงงานไปรับขยะเปียกมาจากเทศบาล-อบต.ต่าง ๆ ในเขตจังหวัดชลบุรีและยังมีเทศบาลในเขตจังหวัดระยองก็เอาขยะมาทิ้งที่นี่ เมื่อก่อนประตูโรงงานไม่ปิด มองผ่านไปก็จะเห็นภาพกองขยะกองใหญ่อยู่ในโรงงาน แต่พอมีการร้องเรียนโรงงานก็เลยมีการปิดประตูด้านหน้าเพื่อไม่ให้เห็นกองขยะ เจ้าของโรงงานเคยตกลงกับชาวบ้านในชุมชนว่าจะสร้างเป็นโรงงานระบบปิดแต่ผ่านไปเป็นปีก็ยังไม่ได้ทำตามที่ได้ตกลงไว้กับชาวบ้านยังคงส่งกลิ่นเหม็นเหมือนเดิม รถขนขยะจากเดิมที่เคยวิ่งในช่วงตอนเช้าพอชาวบ้านร้องเรียนไปก็มีการแอบวิ่งตอนกลางคืนช่วงตี 2-ตี 5 ชาวบ้านไปถ่ายคลิปไว้เห็นน้ำจากรถขยะไหลลงพื้นถนนตลอดเส้นทาง
ทางนายกอบต.มาบไผ่ ก็เคยลงมาดู รับปากว่าจะแก้ปัญหาให้ แต่เวลาผ่านไปเป็นปีก็ไม่เห็นจะแก้ปัญหาอะไรให้ทุกอย่างเหมือนเดิม ขยะก็เหม็นเหมือนเดิม เคยร้องไปที่ทางอำเภอบ้านบึง ก็ไม่เห็นจะมีใครลงมาแก้ปัญหา เขาเข้าไปตรวจสอบกันเองจากนั้นก็กลับไป ผู้สื่อข่าวถามว่าก่อนจะสร้างโรงงานมีการทำประชาพิจารณ์กันก่อนหรือไม่ ชาวบ้านตอบว่า “ไม่มีไม่เคยรู้เรื่องอะไรเลย ทีแรกก็เป็นโรงงานรับซื้อขยะตามโรงงานเพื่อเอามาคัดแยกไปขาย ต่อมาก็ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ มีการรับขยะเปียกมาจากหลายเทศบาล ขยะเข้ามามากขึ้นก็เลยเหม็นมาก ไม่เคยมีการทำประชาพิจารณ์อะไรเลย เจ้าของโรงงานก็รับปากจะแก้ปัญหาให้ชาวบ้านมีการทำบันทึกไว้ที่ อบต.แต่สุดท้ายก็ยังไม่ได้ทำอะไรเลย ร้องเรียนเรื่องนี้มาไม่รู้กี่สิบรอบแล้วแต่ก็ยังไม่เห็นมีการแก้ไข ชาวบ้านเดือดร้อนมาหลายปีแล้วไม่มีจนท.รัฐมาช่วย ก็เลยรวมตัวมาร้องเรียนสื่อมวลชนเพราะชาวบ้านไม่มีที่พึ่งแล้ว
นางบุญเหลือ สุขประเสริฐ อายุ 87 ปี บ้านเลขที่ 79/13 ม.1 ต.มาบไผ่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี กล่าวว่า “ตนเองมีอาการเหนื่อยหอบหืดเพราะเหม็นกลิ่นขยะ รถขยะมันขนขยะมาทั้งวันเลยนี่เพิ่งจะออกจากโรงพยาบาลมาได้ 2 วัน เพราะหอบหืด ก่อนหน้าฝนตกลงมา 2 วันเหม็นจนอยู่ไม่ได้เข้าโรงพยาบาลเลย” นางสุพิน รัตนะ อายุ 60 ปี บ้านเลขที่ 101/6 ม.1 ต.มาบไผ่ กล่าวว่า “มีอาชีพขายของเมื่อก่อนที่จะโรงงานแห่งนี้จะมาตั้ง แต่พอมีโรงงานแห่งนี้มันเหม็นมากจนต้องไปซุกหลังบ้าน มันเหม็นมานานหลายปี เจ้าของโรงงานพอบอกให้ทำแกก็ทำหน่อย ผ่านไป 1 อาทิตย์ก็เหมือนเดิม อย่างรถขยะที่วิ่งเอาขยะมาทิ้ง ก็มีวันนี้แหละที่ไม่มีวิ่งเพราะรู้ว่ามีนักข่าวจะมาทำข่าว ปรกติแล้วรถขยะจะวิ่งทั้งวันทั้งคืน”
น.ส.วัลยา ภัครวิริยสกุล อดีตผู้สมัครส.อบจ.ชลบุรี “คณะก้าวหน้าเปลี่ยนชลบุรี”เปิดเผยว่า “เราได้ลงมาเยี่ยมเยือนประชาชนในช่วงการหาเสียง ประชาชนได้ร้องเรียนว่าได้รับความเดือดร้อนจากโรงขยะแห่งนี้ บางคนก็ล้มป่วยเพราะกลิ่นขยะของโรงงานแห่งนี้ เขาขอให้ไปตรวจสอบว่าขยะที่นำมาทิ้งเป็นขยะมาจากที่ไหน ทำไมถึงต้องมาทิ้งในพื้นที่ชุมชนซึ่งเป็นแหล่งพักอาศัยของชาวบ้าน ก็อยากจะให้จนท.รัฐเข้ามาดูแลรับผิดชอบว่าโรงงานแห่งนี้มีใบอนุญาตตรงกับที่ทำหรือเปล่า เพราะก่อนทำโรงงานประชาชนบอกว่าไม่มีการทำประชาพิจารณ์ในเรื่องการสร้างโรงงานรับกำจัดขยะเปียกจากเทศบาล-อบต.ต่าง ๆ เลย ซึ่งถ้าไม่มีอะไรคืบหน้าก็คงต้องพาชาวบ้านไปร้องเรียนต่อ นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผวจ.ชลบุรี ให้ลงมาดูแลแก้ปัญหาให้ประชาชน เพราะเดือดร้อนกันจริง ๆ
ธนา ธรรมวาจา / เจียรพรรณ สุรนันท์ รายงาน