หลังฉากการเมือง “นักสู้คลองหลวง” “ประมวล เอมเปีย”เรียบง่าย ติดดิน เตรียมพื้นที่สร้างศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ

            นักการเมืองเลือดน้ำเค็ม ที่ปัจจุปันยังยืนหยัดอยู่ในสนามการเมืองระดับประเทศมายาวนานกว่า 30 ปี ผ่านสังเวียนการเลือกตั้งมาอย่างโชกโชน เคยเป็นสมาชิกสภาจังหวัดชลบุรี(สจ.) เป็นสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) ด้วยความเป็น “นักต่อสู้” ทำให้แวดวงสื่อมวลชนจ.ชลบุรี ตั้งฉายาว่า “นักสู้คลองหลวง” เป็นเพราะต่อสู้และผลักดันทำให้จังหวัดชลบุรี  ได้สร้าง “อ่างเก็บน้ำคลองหลวงรัชโรทร”อ.เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี  จนได้ใช้ถึงทุกวันนี้ เกิดประโยชน์มากมายในด้านเกษตร-อุตสาหกรรม-การท่องเที่ยว และแก้ปัญหาไม่ให้ อ.พนัสนิคม-อ.พานทอง ประสบปัญหาน้ำท่วม

             เชื่อว่าคนชลบุรีต่างจะต้องรู้จักชื่อ  “ประมวล เอมเปีย” ที่ปัจจุปัน มีสถานะเป็น “หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน”

             หน้าฉากในเวทีการเมืองชลบุรี ชื่อของ “ประมวล เอมเปีย” ต่างเป็นที่รู้จักในความเป็นนักการเมือง “ยอดนักสู้” มีบทบาท และความกล้าชน ดุดันกับนักการเมือง-ข้าราชการ ที่ใช้หน้าที่ไปแสวงหาผลประโยชน์ อีกทั้งยังเป็นนักการเมืองที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับ “ค่ายบ้านใหญ่ชลบุรี”  ซึ่งในอดีตมี “กำนันเป๊าะ”นายสมชาย คุณปลื้ม อดีตผู้กว้างขวางภาคตะวันออก เป็นผู้สนับสนุน ทุกสนาม  ไม่ว่าจะเป็นเวทีการเมืองระดับ ส.ส.หรือ ส.ว.

             เบื้องหลังฉากการเมืองของ “ประมวล เอมเปีย” กลับไม่ดุดันเหมือนภาพที่ได้เห็นบนเวทีการเมือง เขาใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ติดดิน และพอเพียง  เมื่อมีช่วงเวลาที่ว่างเว้นจากการลงพื้นที่เยี่ยมเยือนพบปะกับประชาชนทั้งใน จ.ชลบุรีและต่างจังหวัด  “ประมวล เอมเปีย” จะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในไร่ ในสวน แบบสงบ เรียบง่าย ซึ่งเป็นวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นใน อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี               

              “ไร่ธนัทรัช” ตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.6 ต.นาเริก อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี จึงเป็นสถานที่ ๆ “ประมวล”ใช้เวลาพักผ่อนกับครอบครัว ในช่วงเวลาที่เสร็จสิ้นจากการทำกิจกรรมการเมือง

               นายประมวล กล่าวว่าพื้นที่ตรงนี้มีจำนวน 22 ไร่ เดิมเป็นท้องนา ก่อนจะมาพัฒนาให้เป็นสวนตั้งชื่อว่า “บ้านสวนไร่ธนัทรัช” รูปแบบก็ทำคล้าย ๆ กับ “โคกหนองนาโมเดล”  พื้นที่ตรงนี้มีอากาศดี ลมพัดเย็นสบายทั้งกลางวัน-กลางคืน   ด้านข้างจะติดกับคลองทั้ง 2 ด้าน ทำให้มีความอุดมสมบูรณ์ ก็เลยใช้รถแบคโฮมาปรับพื้นที่ให้เป็นแปลงเกษตร แยกเป็นหลายโซน  มีทั้งสระน้ำแบบวิถีธรรมชาติ เป็นแปลงปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่  เป็นบ่อเลี้ยงปลาพื้นบ้าน  เป็นแปลงเกษตรสวนผสม 

  บริเวณพื้นที่ขอบสระก็ปลูกไม้ดอก ทานตะวัน ทองอุไร หางนกยูง ฯลฯ   พืชสวนครัวแบบสวนผสมมีทั้งคะน้า-ผักชี-ต้นหอม-ต้นขึ้นฉ่าย ฯลฯ  ผลไม้ก็มีทุเรียน-ขนุน  ต้นกระท่อมก้านแดง ก็เพิ่งจะเอามาปลูก  พืช-ผักที่นี่เราไม่ใช้สารเคมี  นอกจากนี้ก็มีการเลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ไข่ เลี้ยงเป็ด เลี้ยงหงส์ ชาวบ้านก็เอาหมูแคะมาให้เลี้ยงตอนนี้ก็อยู่เล่นกับคนเฝ้าสวนเป็นหมูแสนรู้ไปแล้ว 

นายประมวล กล่าวอีกว่า   ผมตั้งใจจะพัฒนาที่นี่ให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ มีการสาธิตการปลูกข้าว การทำแปลงเกษตรผสมผสาน และเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ เป็นแหล่งท่องเที่ยวให้กับชาวพนัสนิคม และชาวชลบุรี   ตอนนี้ช่วงเย็น ๆ ก็มีคนมาใช้พื้นที่ตรงนี้พักผ่อนกันเยอะ มาขี่จักรยาน มาเล่นน้ำกันบ้าง บางคนมาขอกางเต้นท์นอน ผมก็สร้างห้องอาบน้ำ-ห้องสุขาเอาไว้ให้  ตอนนี้รอให้ต้นไม้โตก็จะสวยงามมากขึ้น 

สิ่งที่ผมอยากจะทำก็คือโซนพื้นที่ของการดูแลผู้สูงอายุคนที่ไม่มีลูกหลานดูแล ซึ่งปัจจุปันบ้านเราก็มีจำนวนผู้สูงอายุที่ขาดคนดูแลเยอะมาก   ตัวผมก็อยากให้สังคมบ้านเรากลับไปอยู่กันแบบในสมัยปู่ย่าตายาย บ้านใกล้เรือนเคียงมีอะไรก็แบ่งปันกัน ผมก็อยากเห็นภาพอย่างนั้นกลับมา  ในส่วนตัวผมถ้าว่างเว้นจากการทำการเมืองก็จะมานั่งเล่นที่นี่ เป็นการพักสมองไปในตัว ทำให้ย้อนเห็นภาพบรรยากาศเก่า ๆ ในสมัยเมื่อเราเป็นเด็ก ผมและครอบครัวก็มีความสุข  ส่วนการเมืองก็ว่ากันไปเราต้องแยกแยะแบ่งเวลาเรื่องงานกับครอบครัวให้มีความสมดุลกัน

ธนา ธรรมวาจา / เจียรพรรณ สุรนันท์ รายงาน