“ผู้ว่าหนุ่ย” เนื้อหอม พรรคการเมืองรุมจีบ รับสนิท“ลุงป้อม”สมัยเป็นนายอำเภอ ขอเป็นทางเลือกสุดท้ายหลังเกษียณ

       เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 11 มกราคม 2565 “ผู้ว่าหนุ่ย” นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผวจ.ชลบุรี ได้กล่าวคำอวยพรให้กับกลุ่มสื่อมวลชน จ.ชลบุรี ที่ได้ไปขอพรจาก ผวจ.ชลบุรี ที่ห้องทำงานศาลากลางจังหวัดชลบุรี เนื่องในวาระวันปีใหม่ 2565  นายภัครธรณ์กล่าวว่าเนื่องในโอกาสปีใหม่ขอให้อำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจงบันดาลพรให้สื่อมวลชนทุกท่าน มีความเจริญมีความสำเร็จทุกสิ่งที่ปรารถนา ทำงานการใด ๆ ขอให้ราบรื่นขอให้ความสุขตลอดปี 2565 ในปีนี้ทางจังหวัดมีการรณรงค์ให้ข้าราชการทุกหน่วยงานงดรับของขวัญ 

 ผู้สื่อข่าวได้ถามถึง การจัดงานสงกรานต์ งานนมัสการพระพุทธสิหิงค์ ประจำปี 2565 ว่าจังหวัดชลบุรีจะมีจัดงานหรือไม่  ในขณะที่ งานนมัสการหลวงพ่อโสธร จ.ฉะเชิงเทราก็จัดงานทุกปี  นายภัครธรณ์ กล่าวว่า  จังหวัดชลบุรีไม่ได้จัดงานต่อเนื่องกันมา 2 ปี ตั้งแต่ปี 2563-2564 เนื่องจากเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19   ในปีนี้ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด โอมิคอน ว่าจะมากน้อยเพียงใด  แต่ก็เตรียมการจัดงานอยู่  จังหวัดทำเรื่องของบประมาณในการจัดงานไปกับอบจ.ชลบุรีไปแล้ว  ถ้าสถานการณ์คลี่คลายภายในเดือนนี้หรือเดือนหน้า  ก็คิดว่าเดือนเมษายนก็คงจะจัดงานได้  ตอนนี้ผู้ป่วยโควิด โอมิคอน แม้ว่าจะระบาดในพื้นที่ จ.ชลบุรี จำนวนมากก็จริงแต่ไม่มีผู้ป่วยหนัก ที่ป่วยหนักคือผู้ป่วยเดิมที่รักษาอาการมานานแล้วทรุดลง คนป่วยเหล่านี้พบว่า 1.ไม่ได้ฉีดวัคซีน 2.มีโรคประจำตัว 

จึงทำให้การรักษาให้ยาอะไรไปร่างกายก็ไม่รับ โควิดโอมิคอน เชื้อไวรัสมันไม่ลงปอด จะอยู่ที่คอจึงแพร่เร็วกว่าเดิม 5 เท่า จากติด 100 ก็กลายเป็น 500 ไปเร็วมาก ก็ต้องระวังแต่ โควิด โอมิคอนติดแล้วก็หายเร็ว 4-5 วันก็หายป่วยแล้ว  ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายภัครธรณ์  หลังจากเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน 2565 มีความสนใจที่จะเดินเข้าสู่สนามการเมืองหรือไม่ นายภัครธรณ์ กล่าวว่าหลังจากเกษียณก็อยากจะพักผ่อนเพราะเป็น ผวจ.ชลบุรี มานานถึง 6 ปีเต็ม มีบ้านอยู่ชลบุรีและสระแก้ว  ภาคเอกชนอย่างนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ก็เชิญผมให้ไปเป็นที่ปรึกษาฯ  ก็ถามว่าจะให้ผมไปทำอะไรผมทำไม่เป็น เขาก็บอกว่าผมอยู่ชลบุรีมานานเป็น รอง.ผวจ.เป็น ผวจ. ได้เห็นภาครัฐ-เอกชน พื้นที่ความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ในจ.ชลบุรี  แค่ให้ความคิดเขาก็พอแล้ว เขาจะมองเห็นทิศทางแต่ผมก็ยังไม่ได้รับปาก ก็มีหลายบริษัทเหมือนกัน ผมมองว่าผมเกษียณแล้วก็ยังได้เงินเดือนเท่ากับตอนที่ผมเป็น ผวจ.อยู่ในขณะนี้  เพราะอายุราชการเยอะจึงได้เงินเดือนเท่ากับตอนนี้ ผมก็ไม่เดือดร้อนอะไร ไม่มีหนี้สินอะไร 

สำหรับการเมืองนั้นผมคิดไว้เป็นอันดับสุดท้ายแต่ว่าไม่รู้นะ พอถึงวันหนึ่งในอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ถ้ารูปแบบการเมืองเปลี่ยนไปเราสามารถทำและเป็นประโยชน์ได้เราก็ไม่แน่  อะไรถ้ามันเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมบางทีเราก็ปฏิเสธไม่ได้  ผู้สื่อข่าวถามว่ามีความสนิทสนมกับ “ลุงป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ  นายภัครธรณ์ กล่าวว่าก็สนิทเพราะการทำงานมันไม่ได้เป็นเรื่องของประเด็นทางการเมืองหรืออะไร  ท่านก็เป็นข้าราชการเห็นผมมาตั้งแต่ผมเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อย เห็นกันมา เห็นการทำงานสมัยผมเป็นนายอำเภอก็เป็นอย่างนี้  พอท่านมาทำงานเป็นนักการเมืองก็เอ็นดูเรา เห็นเราเป็นคนทำงานดูแลพี่น้องประชาชนแต่ก็ไม่ได้ไปเกี่ยวกับการเมืองอะไร  แต่ในอนาคตถ้าเป็นการเมืองแบบสร้างสรรค์เป็นการเมืองแบบช่วยกันก็ไม่แน่ ผู้สื่อข่าวถามว่ามีความสนใจการเมืองท้องถิ่น อบจ.บ้างหรือไม่  นายภัครธรณ์ กล่าวว่าท้องถิ่นไม่ได้คิดเลย เพราะระบบท้องถิ่นการเข้ามาเป็นผู้บริหารนั้น มันต้องมีคนเลือก และเราก็ไม่ถนัดตรงที่ให้คนมาเลือกเรา ต้องหาวิธีพูดอย่างไรให้คนเลือกเรา ผมไม่ถนัด ถ้าให้ทำงานอะไรเราก็ทำได้ บริษัทใหญ่ๆ ก็จะให้เป็นที่ปรึกษาแต่ก็ไม่ได้รับปากอะไร ขอให้หมดภาระหน้าที่ไปก่อนแล้วค่อยมานั่งคิดอีกที  ก็เหลือเวลาอีก 8 เดือน ตอนนี้จึงขอไม่ตอบใดๆ ทั้งสิ้น ตัวผมไม่ได้คิดมีพื้นที่ๆ จะเล่นการเมือง ไม่ได้เลือกฝ่าย ใครเดือดร้อนก็ดูแลหมด

ธนา ธรรมวาจา /เจียรพรรณ สุรนันท์ รายงาน