เส้นทาง “ณพล บริบูรณ์ นายกสื่อชลบุรี อดีตคนสนิท” กำนันเป๊าะ” สู่สนามการเมืองระดับชาติ

           “ณพล​ บริบูรณ์​” ถ้าเอ่ยชื่อนี้ในแวดวงการสื่อมวลชนจ.ชลบุรี-ภาคตะวันออก เป็นที่รู้จักในนาม “สัมภาษณ์​ ช่อง7​ สี​ สัมภาษณ์ เดลินิวส์​” รวมไปจนถึงบรรดาข้าราชการ-นักการเมืองท้องถิ่น-ประชาชนชาวชลบุรี

           “ณพล บริบูรณ์” มีความสนิทคุ้นเคยกับ​ “มือปราบเลือดน้ำเค็ม” พล.ต.ต.บัณฑิต​ คุณจักร์ ในสมัยที่ พล.ต.ต.บัณฑิต นั่งเก้าอี้ ​​ ผบก.ชลบุรี​ ที่เคยร่วมกันทำงานเผยแพร่ข่าวสารระหว่าง “ตำรวจ”กับ “นักข่าว”

           ในแวดวงการสีกากีต่างทราบกันดีว่าในสมัย​ ” บิ๊กตู่” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์​ เตมียาเวส​ นั่งเก้าอี้ ผบ.ตร. เป็นผู้สนับสนุนให้ พล.ต.ต.บัณฑิต​ คุณจักร์​ ลูกหลานชาวพนัสนิคม​ มีศักดิ์เป็นพี่เขย​ นายนิคม​ แสนเจริญ​ อดีตส.ส.ชลบุรี​ ได้มานั่งเก้าอี้​ ผบก.ชลบุรี​ แบบไม่มีใครคาดคิด

           พล.ต.ตบัณฑิต​ เห็นการทำงานการเมืองของ ​ นายณพล​ บริบูรณ์​ ตั้งแต่สมัยเป็น สท.เทศบาล ต.บ้านสวน จนกระทั่งเป็นที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภคสภาผู้แทนราษฎร  มองเห็นแววทางการเมือง ประจวบกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กำลังหาคนลงสมัครส.ส.ชลบุรี ในเขต.2  จึงชวนให้ “ณพล บริบูรณ์” มาชิมลองในสนามการเมืองระดับประเทศ เชื่อว่าจะเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งของคนชลบุรี​ 

         ​ชื่อ “ณพล​ บริบูรณ์”​ จึงปรากฎชื่อเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 พรรคเสรีรวมไทย

          ย้อนอดีตไปในสมัยชลบุรี ยังเป็นดินแดนของผู้มีอิทธิพล​ “ณพล​ บริบูรณ์” ถือว่าเป็นสื่อมวลชน 1 เดียวที่มีความสนิทสนมกับ​  “กำนันเป๊าะ” เนื่องจากมีอาชีพหลักเป็น​ พนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค​ควบคู่กับการเป็น “นักข่าว” จึงติดสอยห้อยตาม “กำนันเป๊าะ”มาโดยตลอด

          สูตรสำเร็จของนักการเมือง จ.ชลบุรี ในยุคสมัยนั้น ถ้าต้องการประสบความสำเร็จ ถนนทุกสายจะมุ่งตรงไปที่ “บ้านใหญ่บางแสน” เท่านั้น

          แต่เมื่อสิ้น​” กำนันเป๊าะ” ​นายสมชาย คุณปลื้ม การเมืองท้องถิ่น จ.ชลบุรีก็แตกแขนงแบ่งออกเป็นหลายกลุ่ม หลายซุ้ม​ ตั้งแต่ “กลุ่ม​พลังเฮ้ง​ มังกรน้ำเค็ม​  ซุ้ม“นายกอุ๊ย นักเลงเรียกพี่” ​ ซุ้มส.ส.มานิตย์ หนองไม้แดง​ ซุ้ม “จ้าวป่า สิงห์โตทอง”  กลุ่มสามมิตร “ส.ส.ต้น-ผู้กองเบิร์ด”  ซุ้มนิรันดร์​ นาเกลือ  กลุ่ม“นักสู้คลองหลวง”ประมวล​ เอมเปีย​ พรรคเพื่อแผ่นดิน​  ซุ้มทายาทหมื่นล้าน “พายุ​ เนื่องจำนงค์  ซุ้ม“สท.อ้อ พันธมิตรประชาธิปัตย์​” ฯลฯ

       สนามการเมืองชลบุรีในระดับส.ส.จึงกลายเป็นเวทีอิสระ​ ยิ่งการเลือกตั้งส.ส.ชลบุรีครั้งหน้า​ กกต.ได้ประกาศว่า​ จ.ชลบุรี​ มีการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่​ มี​ส.ส.เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 10​ เก้าอี้  ทำให้พรรคการเมืองใหญ่ๆต่างเตรียมความพร้อมที่ส่งผู้สมัครชิงชัยในเวทีส.ส.ชลบุรี

        พรรคเสรีรวมไทย ที่มี “บิ๊กตู่” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส เป็นหัวหน้าพรรค  มองว่าจ.ชลบุรี​มีโอกาสที่จะแบ่งเก้าอี้ส.ส.ได้​ เพราะสมัยหนึ่งเคยมาเป็น​ ผกก.หน.ตร.จ.ชลบุรี และเคยนั่งเก้าอี้​ ผช.ผบช.ภ.2 ได้สร้างบทบาทปราบปรามผู้มีอิทธิพล-ซุ้มมือปืน ทำให้คนชลบุรีรู้จักชื่อเสียงของ “ผกก.เสรี”

       การจะมาปักธง “เสรีรวมไทย” ที่ จ.ชลบุรี จึงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ “ณพล​ บริบูรณ์​”ถูกวางตัวให้เป็นผู้สมัคร​ส.ส.ชลบุรีเขต.2 พื้นที่ อยู่ในตัวเมืองชล เทศบาลเมืองบ้านสวน, เทศบาลเมืองชลบุรี

       เมื่อถามว่าเริ่มสนใจการเมืองระดับชาติเมื่อไร นายณพล กล่าวว่า  “เริ่มสนใจอย่างจริงจังในช่วงที่ไปทำงานในสภาฯ เป็นที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค ประมาณ 1 ปี พอปีที่ 2 ก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาประจำ คณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค และในชีวิตก็อยากจะทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติบ้านเมืองโดยเฉพาะจังหวัดชลบุรี   จุดที่ตัวผมเข้าสู่การเมืองที่ชัดเจนนั้นเป็นช่วงที่ นายอุทัย พิมพ์ใจชน ยื่นฟ้องจอมพลถนอม กิตติขจร หลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2514 และถูกจำคุกนานประมาณ 2 ปี และได้รับการปลดปล่อยภายหลังสถานการณ์เมื่อเดือนตุลาคม 2516 ต่อมานายอุทัย ได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ชลบุรี ในปี 2518 โดยลงสมัครรับเลือกตั้งเขต 1 ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ โดยแข่งขันกับนายบุญชู โรจนเสถียร พรรคกิจสังคม ซึ่งผลการเลือกตั้งทั้ง 2 คนได้รับการเลือกตั้งเข้าสู่สภา ช่วงนั้นตนเองได้ไปช่วยนายอุทัยหาเสียง

โดยรับหน้าที่ฉายหนังกลางแปลงให้ประชาชนได้ดู สมัยก่อนสามารถหาเสียงแบบนี้กันได้ การหาเสียงแข่งขันกันอย่างดุเดือดเผ็ดมัน เพราะจะต้องมีการต่อสู้ทางการเมืองทุกรูปแบบ จึงได้ซึมซับการเมืองมาได้ระดับหนึ่ง    ต่อมาหันเหไปรับราชการช่วงอายุ 25 ปี โดยเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจสังกัดการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 2 ทำงานอยู่มาได้ 15 ปี ช่วงนั้นปี 2540 ได้รับเปิดบริษัทรับเหมางานเกี่ยวกับการติดตั้งระบบไฟฟ้าแรงสูง แรงต่ำ จึงลาออกจากการไฟฟ้ามาทำอาชีพอิสระ จนได้รู้จักกับ​ นายนิคม แสนเจริญ อดีต ส.ส.ชลบุรี น้องเมีย​ “กำนันเป๊าะ” ที่เสียชีวิตไปแล้วจากอุบัติเหตุช่วงหาเสียงเลือกตั้ง  รวมทั้ง”กำนันเป๊าะ” ก็ถูกใจ จากการที่ตนเองพบเห็นมีการทุจริตการเลือกตั้งแล้วแจ้งตำรวจสันติบาลจับกุม  ทำให้​ “กำนันเป๊าะ” เรียกตัวไปใช้ดูแลเกี่ยวกับงานการเมือง​   ต่อมา​ “กำนันเป๊าะ” สนับสนุนให้ลงสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลตำบลบ้านสวนซึ่งมี​ “กำนันน้อง” นายวัฒนา ตั้งประกอบ น้องเมีย “กำนันเป๊าะ” ลงสมัครรับเลือกตั้ง ในปี 2544  ก็ได้รับการเลือกตั้งแบบยกทีม และรับตำแหน่ง​สท. 4 ปี จากนั้นก็กลับมาทำงานทางด้านสื่อสารมวลชนจนถึงปัจจุบัน​ และได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาประจำคณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร

             นายณพล กล่าวอีกว่า  “ผมเองเคยไปสมัครเป็นสมาชิกวุฒิสภา 18 สายอาชีพ ครั้งนั้นมองว่ามีคุณสมบัติครบถ้วนผ่านความเห็นชอบในระดับจังหวัด  แต่สุดท้ายไปเจอระดับเส้นสายในระดับการกลั่นกรอง ก็เลยมองว่าประเทศไม่ได้เป็นประชาธิปไตยยังคงมีระดับเส้นสายอยู่ แต่ก็มีความภูมิใจที่ได้คะแนนมาเป็นอันดับ 1 ของผู้สมัครสว.ในจังหวัดชลบุรี  ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งของการตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ชลบุรี เขต 2 ชลบุรี กับพรรคเสรีรวมไทย  และที่สำคัญมีความประทับใจในการทำงานของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ที่โปร่งใส ไม่มีปัญหาในเรื่องทุจริตคอรัปชั่นจึงอยากมาร่วมงาน​  การเข้าสู่เส้นทางการเมืองในครั้งนี้ ก็อยากจะให้การเลือกตั้งในพื้นที่ จ.ชลบุรีมีความบริสุทธิ์ยุติธรรม ได้นักการเมืองที่ดีเข้าสู่สภา ก็จะเกิดผลดีต่อการผลักดันงบประมาณ เพื่อมาพัฒนาโครงการต่างๆ ในพื้นที่ จ.ชลบุรี ผมเองก็หวังว่าจะเป็นอีกคนหนึ่งที่ชาวชลบุรีให้โอกาสเลือกให้เป็นเป็นผู้แทน เพื่อได้ไปทำหน้าที่ตัวแทนในสภาฯ จึงได้ตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ชลบุรี เขต 2 ในนามของพรรคเสรีรวมไทย”

ธนา ธรรมวาจา/เจียรพรรณ สุรนันท์ รายงาน