“สาวใหญ่”ท้าวแชร์ย่านบางแสน ถูกกลุ่มลูกแชร์-หนี้นอกระบบ นัดเคลียร์หนี้สิน ตกลงกันไม่ได้ถูกรุมซ้อมจิกหัวกระแทกเข่า

         ร้อยเวรเจ้าของคดี.อ้างติด พรบ.ข้อมูลข่าวสาร เปิดเผยข้อมูลกับสื่อมวลชนไม่ได้เป็นความลับของราชการ ต้องให้ผกก.สั่ง

        จากกรณี เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2565  น.ส.กุลริสา เบญญาพุฒิภัส อายุ 47 ปี บ้านเลขที่ 380 ถ.บำรุงเมือง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครพนม ได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.อภิรัชฎ์ อดิเรกพูลลาภ พนักงานสอบสวน สภ.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี ว่า เมื่อเวลา 13.00 น.ของเดียวกัน น.ส.กุลริสา ได้เดินทางไปที่บ้านแห่งหนึ่ง ถ.บางแสนสาย 2 ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี เนื่องจากได้นัดหมายกับ นางมอ(นามสมมุติ)  อายุ 46 ปี นางโอ(นามสมมุติ) อายุ 48 ปี  และ น.ส.แอ(นามสมมุติ)  โดยได้นัดหมายกันเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องหนี้สินในวงแชร์ที่ น.ส.กุลริสา เป็นท้าวแชร์ ซึ่งน.ส.กุลริสา ได้เดินทางไปถึงบ้าน นางมอ(นามสมมุติ) ได้เข้ามาทำร้ายร่างกาย โดยมี น.ส.แอ(นามสมมุติ) เข้ามาร่วมทำร้ายด้วย ระหว่างที่โดนรุมทำร้าย นางโอ(นามสมมุติ)  ได้ถ่ายคลิปวีดีโอขณะที่ผู้แจ้งได้โดนรุมทำร้าย ต่อมา นางมอและน.ส.แอ ได้พยายามพาผู้แจ้งเข้าไปในห้องภายในบ้านระหว่างนั้น ผู้แจ้งได้ถูกทำร้ายอีกครั้ง 

โดยผู้แจ้งไม่ยินยอม ต่อมาผู้แจ้งมาอยู่ภายในห้องแล้ว ยังได้บังคับให้ผู้แจ้งโทรศัพท์ติดต่อกับคนรู้จัก เพื่อให้นำเงินมาจ่ายหนี้สินที่ติดค้าง ถ้าหากไม่โอนมาจ่ายหนี้ให้ จะไม่ปล่อยให้ผู้แจ้งออกไปจากห้อง ผู้แจ้งจึงต้องยอมติดต่อกับแฟนและแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตัวออกมาจากบ้านที่ถูกกักขังไว้  จึงได้มาร้องทุกข์กับ พนักงานสอบสวนสภ.แสนสุข เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ร่วมกันก่อเหตุทั้ง 3 คน และยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด   ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.กุลริสา มีสภาพสะบักสะบอม ใบหน้าปวมปูด คิ้วข้างขวาแตก มีรอยเลือดไหลลงมาถึงบริเวณกรามด้านขวา เสื้อที่สวมใส่เต็มไปด้วยรอยเลือด

             น.ส.กุลริสา ได้เปิดเผยผู้สื่อข่าวว่า ตนเองได้เป็นท้าวแชร์ แต่เนื่องจากลูกแชร์ที่เล่นในวงแชร์ บางรายเสียชีวิตและเบี้ยวไม่จ่ายค่าแชร์ ทำให้จำเป็นต้องล้มแชร์ ต้องไปกู้เงินมาชดใช้ จนเป็นหนี้สินจำนวนหลักล้าน แต่ก็ไม่ได้หลบหนีลูกแชร์แต่อย่างใด เพียงว่าไม่มีเงินเป็นก้อนจ่ายให้ลูกแชร์ที่ยังไม่ได้เปีย  เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 5 ก.ค.65  ได้รับการติดต่อจากลูกแชร์ 2 คน นัดอีกคนหนึ่งเป็นเจ้าหนี้นอกระบบ ให้มาเจอที่บ้านของลูกแชร์คนหนึ่งย่านบางแสน ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี เพื่อมาตกลงเคลียร์ค่าแชร์ เมื่อไปถึงบ้าน ได้มีนางมอ(นามสมมุติ) น.ส.แอ(นามสมมุติ) และ นางโอ(นามสมมุติ) ได้อยู่ภายในบ้านดังกล่าว  ก็มีการพูดคุยกันเรื่องค่าแชร์ที่ตนเองเป็นหนี้อยู่เป็นเงินรวม 175000บาท  ตนเองก็ขอผ่อนชำระให้เดือนละ 1 พันบาท หลังจากนั้น นางมอ(นามสมมุติ) ก็ได้เข้ามาทำร้ายร่างกาย โดยมี น.ส.แอ(นามสมมุติ) มาร่วมรุมทำร้ายด้วย ส่วน น.ส.โอ(นามสมมุติ) ไม่ได้มาร่วมรุมทำร้ายแต่ทำหน้าที่ถ่ายคลิปวีดีโอไว้ จากนั้น นางมอและน.ส.แอได้ลากตนเองเข้าไปที่ห้องๆ หนึ่งในบ้านหลังเดียวกัน พร้อมรุมทำร้ายตนเองเป็นครั้งที่ 2 ตนเองก็พยายามที่จะสู้ไม่ยอมเข้าไปในห้องแต่สุดท้ายก็ถูกลากเข้าไปในห้องจนสำเร็จ หลังจากนั้น นางมอกับน.ส.แอ ได้ให้ตนโทรศัพท์ติดต่อกับคนรู้จักให้นำเงินที่ติดค้างทั้งหมดมาจ่าย หากไม่มีเงินจ่ายก็จะไม่ให้ออกจากห้องโดยเด็ดขาด ระหว่างที่ นางงมอ กับน.ส.แอเผลอ ตนเองจึงได้โทรศัพท์แจ้งให้แฟนทราบและขอความช่วยเหลือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับคนที่ร่วมรุมทำร้ายตนให้ถึงที่สุด กลุ่มที่ทำร้ายตนยังได้ตะโกนว่าเดี๋ยวโทรหาสารวัตร ซึ่งตนเองกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงมาร้องเรียนมายังสื่อมวลชน เพื่อขอความช่วยเหลือ

      สำหรับความคืบหน้าในคดีดังกล่าว เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 6 มิถุนายน 2565 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ สภ.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี เพื่อสอบถามความคืบหน้าในคดีดังกล่าวกับ พ.ต.อ.พัฒนา รอบรู้ ผกก.สภ.แสนสุข แต่ ผกก.ติดอบรมที่กทม. โดยมอบหมายให้  พ.ต.ท.ดุจดล ด้ายละออง รอง.ผกก.สอบสวน รักษาราชการแทน ผกก.ให้รายละเอียดกับผู้สื่อข่าว   พ.ต.ท.ดุจดล กล่าวว่าในเรื่องนี้ยังไม่ได้รับทราบในเหตุการณ์ที่มีแจ้งความเป็นคดี  พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีน่าจะอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานในการที่จะไปแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ที่ทำร้ายร่างกาย น.ส.กุลริสา  อีกทั้งยังต้องดูรายละเอียดอย่างอื่นประกอบด้วยว่าการที่ผู้เสียหายเข้าไปในบ้านที่เกิดเหตุหลังดังกล่าวเข้าไปในลักษณะใด เรื่องนี้ต้องขอเวลาให้พนักงานสอบสวนได้รวบรวมหลักฐานก่อนแต่ยืนยันว่าผู้เสียหายต้องได้รับความเป็นธรรม  ทางด้าน ร.ต.อ.อภิรัษฏ์  อดิเรกพูลลาภ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีกล่าวกับผู้สื่อข่าว เมื่อถูกสอบถามถึงความคืบหน้าของคดีที่เกิดขึ้นว่า เรื่องนี้ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดในการสอบสวนกับสื่อมวลชนได้เพราะเป็นความลับของราชการ อีกทั้งตามพ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร ต้องให้ ผกก.เป็นผู้ให้ข่าวได้เท่านั้น หรือให้ ผกก.สั่งการลงมาเท่านั้น