ประธานกมธ.คุ้มครองผู้บริโภค เตรียมลงดาบเชือด สถาบันการเงิน-ลิซซิ่ง เอาเปรียบผู้บริโภค ยึดทรัพย์ไม่เป็นธรรม เบื้องต้นแนะผู้บริโภคอย่าเจรจาโดยตรง ควรมีตัวกลางช่วยเจรจา
เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2565 ที่อาคารรัฐสภา ห้องประชุมกรรมาธิการ N 408 ชั้น 4 กรุงเทพฯ นายมานะ โลหะวณิชย์ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย ประธานกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยนายณพล (สัมภาษณ์) บริบูรณ์ น.ส.นภชนก เหมือนนามอญ ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร นายจิรศักดิ์ สินธุ ที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการ พร้อมด้วยคณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภคฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีการประชุมในเรื่องที่มีผู้บริโภคได้ร้องเรียนกับคณะกรรมาธิการ เกี่ยวกับกรณีหลักเกณฑ์และแนวทางการอายัดทรัพย์สิน และการดำเนินคดีเช็คกับลูกหนี้ และที่สำคัญผู้บริโภคไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการดำเนินการของธนาคารที่ประกอบธุรกิจลีสซิ่ง
โดยมีตัวแทนจาก อัยการสูงสุด ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา อธิบดีกรมบังคับคดี เข้าร่วมประชุม ในที่ประชุมได้มีการพิจารณากรณีที่ผู้บริโภคได้มีการเช่าซื้อรถยนต์ หลังจากนั้นถูกยึดขายทอดตลาดทั้งที่รถยนต์ราคาล้านบาทเศษ แต่ขายในราคา 4 แสนบาท รวมทั้งผู้บริโภคได้มีการกู้ยืมเงินจากธนาคารที่ประกอบการธุรกิจลีสซิ่ง เพื่อประกอบธุรกิจ ปรากฏว่าการยึดทรัพย์สินเพื่อขายทอดตลาด กลายเป็นทรัพย์สินที่มีข้อมูลหลุดออกไปภายนอก ทั้งที่ควรจะเป็นความลับ ส่งผลให้ผู้บริโภคได้รับความเสียหาย เพราะได้มีการยึดทรัพย์ของผู้บริโภค เพื่อเตรียมขายเพื่อนำเงินไปใช้หนี้ ทั้งที่มีทรัพย์สินอีกหลายแห่งแต่ไม่ยึด ทำให้ได้รับความเดือดร้อนในเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก ทางด้านธนาคารแห่งประเทศไทยชี้แจงว่า พร้อมที่จะเป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ยหนี้สิน ซึ่งผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหาย ได้ตอบโต้ว่า ธนาคารผู้ประกอบการลีสซิ่งไม่ยอมไกล่เกลี่ย แต่จะฟ้องศาลเพื่อบังคับคดีเพียงอย่างเดียว และจะมีการเจรจากันได้อย่างใด และให้ทางธนาคารแห่งประเทศไทยซึ่งเป็นผู้ดูแลเกี่ยวกับธนาคาร และผู้ประกอบการลีสซิ่ง ช่วยพิจารณาในเรื่องไกล่เกลี่ยให้ด้วย
นายมานะ กล่าวว่า ในการประชุมครั้งนี้เกี่ยวกับสถาบันการเงินเอาเปรียบผู้บริโภค จึงได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับสถาบันการเงิน และผู้ประกอบการลิซซิ่งที่เอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภคเข้ามาจำนวนมาก ผลสรุปในการประชุมครั้งนี้อยากจะเสนอแนะว่าทางผู้บริโภคไม่ควรที่จะไปเจรจากับทางสถาบันการเงิน หรือผู้ประกอบการลิซซิ่งโดยตรง ควรจะมีคนกลางในการเจรจา ไม่เช่นนั้นถูกเอาเปรียบแน่นอน ซึ่งทางคณะกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร จะไม่ยอมให้สถาบันการเงิน ผู้ประกอบการธุรกิจลิสซิ่ง เอาเปรียบผู้บริโภค โดยจะหาทางออกให้ผู้บริโภคที่ถูกเอารัดเอาเปรียบต่อไป