“อดีตรมว.แรงงาน” ฟ้องศาลอาญา “ดำเนินคดี 3 บิ๊ก DSI ยืนยัน ได้รับความเสียหายกล่าวหากันแบบนี้ไม่ได้
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 24 มกราคม 2567 ที่ศาลอาญารัชดา นายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้าง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานแรง พร้อมด้วยกลุ่ม ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้กล่าวกับสื่อมวลชน ภายหลังจากศาลอาญาได้คำฟ้องกรณีนายสุชาติ ได้ยื่นฟ้องดำเนินคดีอาญา กลับเจ้าหน้าที่รัฐ ฯ ที่ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลจนได้รับผลกระทบความเสียหายต่อชื่อเสียง นายสุชาติกล่าวว่า “ผมยื่นฟ้อง 3 ข้าราชการระดับสูง DSI ปมแถลง กล่าวหาเกี่ยวข้องกับการหักหัวคิวแรงงานที่ฟินแลนด์ 36 ล้านบาท และ ศาลได้ประทับรับฟ้องแล้ว พร้อมนัดไต่สวนวันที่ 6 กุมภาพันธ์ นี้
ผมเอง พร้อมด้วย สส. 14 คน จากพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมายัง ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เขตตลิ่งชัน เพื่อยื่นฟ้องต่อศาล กรณีที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ แถลงเมื่อวันที่ 10 มกราคม ที่ผ่านมา มีมติกล่าวหา อดีตรมว. 2 คน และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงแรงงาน 2 คน รวม 4 คน ในความผิด มาตรา 149 และ 157 หลังพบหลักฐานเชื่อมโยง เกี่ยวข้องกับการค่าหักหัวคิว แรงงานที่ไปเก็บผลไม้ป่าที่ ประเทศฟินแลนด์ จำนวน 12,000 คน ระหว่าง ปี 2563-2566 คนละ 3,000 บาท รวมค่าเสียหาย 36 ล้านบาท
ทั้งนึั ผมได้ฟ้อง 3 เจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ คือ อธิบดีดีเอสไอ ที่เซ็นเอกสารในขณะนั้น รักษาการอธิบดีดีเอสไอคนปัจจุบัน ผอ.กองคดีค้ามนุษย์ ในข้อหา ม.157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และ ม.200 เป็น จนท.รัฐกลั่นแกล้งให้รับโทษทางคดีอาญา รวมถึงอีก 7-8 มาตราที่เกี่ยวข้อง การที่ดีเอสไอ ออกมาแถลงข่าว ส่งผลให้ผมและครอบครัว ได้รับความเสียหาย แม้ว่าครั้งนั้นจะไม่มีการเอ่ยชื่อ แต่ได้พูดว่ารัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งมนช่วงปี 2563 ซึ่ง เป็นช่วงเวลาที่ผมดำรงตำแหน่งอยู่ทำให้ประชาชนและหลายคนเข้าใจว่าเป็นผม และการที่ผมมาร้องในครั้งนี้ถือเป็นการรักษาสิทธิ์ และ เชื่อว่าการที่ดีเอสไอ ออกมาแถลงเป็นการ กลั่นแกล้งทางการเมือง เนื่องจากคดีสำคัญที่ประชาชนได้รับผลกระทบกลับไม่แถลง แต่มาแถลงคดีตัวเองที่าีการยื่นสำนวนให้ ป.ป.ช.ไปเมื่อปลายเดือนตุลาคมปีที่แล้ว แต่ยังกลับมาแถลงข่าว ทั้งที่เข้าสู่กระบวนการป.ป.ช.ไปแล้ว อีกทั่งก่อนหน้านีั ยังไม่เคยมีการเรียกผมเองและบุคคลที่เกี่ยวข้องไปสอบถาม ทั้งที่ผมก็เป็นข้าราชการระดับสูง
วันนี้ ได้นำเอกสารหลักฐานจำนวนหลายร้อยแผ่น มายื่นต่อศาล เพราะมีข้าราชการดีเอสไอหลายคนนำข้อมูลมาให้ผม ซึ่งหลังจากนี้ผมจะอภิปรายเรื่องในกระบวนการยุติธรรมในสภา แล้วท้ามาดูกันว่าผมมีหลักฐานมากแค่ไหน ขณะนี้ ศาลได้ประทับรับฟ้องแล้ว พร้อมนัดไต่สวนวันที่ 6 กุมภาพันธ์ นี้ ผมยังยืนยันในฐานะอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเช่นเดิมว่า การส่งรายงานไปทำงานที่ฟินแลนด์ เป็นการทำงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง มีหน่วยงาน ในประเทศไทยรองรับ ทั้งธนาคารซึ่งแรงงานทุกคนเมื่อกลับมาก็จะได้เงินชดเชยแม้จะไม่ได้ไปทำงานก็ตาม
สิ่งที่ผมปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานทำเพื่อพี่น้องประชาชนผู้ใช้แรงงาน แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาจากหน่วยงานรัฐที่อยู่ภายใต้การดูแลของนายกรัฐมนตรีท่านปัจจุบันจึงอยากให้นายกรัฐมนตรี ลงมากำชับตรวจสอบการทำงานของหน่วยงานดังกล่าวด้วย