โฆษกกองทัพเรือยืนยัน โครงการขุดลอกอ่างเก็บน้ำคลองบางไผ่ ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย และตามแนวทางที่หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องให้คำแนะนำ และดำเนินการตามนโยบาย ผบ.ทร.ให้ทุกโครงการของกองทัพเรือ โปร่งใส ตรวจสอบได้
พลเรือตรี วีรุดม ม่วงจีน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่าตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวจากสื่อมวลชนระบุว่ามีประชาชนขอให้ตรวจสอบกรณี ฐานทัพเรือสัตหีบ ได้จ้างเอกชนทำโครงการขุดลอกอ่างเก็บน้ำคลองบางไผ่ อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง เนื่องจากมีข้อสงสัยว่าเรือที่เข้าไปดูดทรายได้มีการขออนุญาตจากกรมเจ้าท่าหรือไม่ และได้รับการอนุญาตในการขนย้ายทราย จากหน่วยงานราชการหรือไม่ รวมทั้งมีการใช้แรงงานต่างด้าวอย่างถูกต้องหรือไม่ รวมถึงประเด็นการ นำกรวดหินดินทรายที่ได้จากการขุดลอก ไปเป็นค่าจ้างในการขุด ดำเนินการอย่างถูกต้องหรือไม่ นั้น
กองทัพเรือขอชี้แจงว่า สำหรับโครงการงานจ้างขุดลอกอ่างเก็บน้ำคลองบางไผ่ นั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเพิ่มปริมาตรการกักเก็บน้ำดิบ ด้วยการขุดลอกอ่างเก็บน้ำคลองบางไผ่ โดยแบ่งการดำเนินการออกเป็น 4 ระยะ ซึ่งจะทำให้เพิ่มประสิทธิภาพปริมาตรรองรับน้ำจากเดิม 9.89 ล้านลูกบาศก์เมตรเป็น 21.89 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะทำให้ หน่วยราชการ และประชาชนในพื้นที่ จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง มีน้ำใช้เพื่อการอุปโภคและบริโภค ตลอดช่วงฤดูแล้ง อย่างเพียงพอ รวมถึงรองรับเมืองการบินภาคตะวันออกและการพัฒนาประเทศตามโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) พร้อมทั้งเป็นแหล่งรองรับน้ำหลากช่วยบรรเทาปัญหาอุทกภัยในช่วงฤดูฝน
ทั้งนี้ เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 22 มกราคม 2567 สื่อมวลชน และหน่วยงานภาครัฐประกอบด้วย สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาระยอง สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง เทศบาลบ้านฉาง ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดระยอง และสถานีตำรวจภูธรบ้านฉาง ได้เข้าตรวจสอบบริษัทผู้รับจ้างแล้ว โดยทางบริษัทฯ ได้ชี้แจงและนำเสนอเอกสาร ใบอนุญาตต่าง ๆ ในทุกประเด็น โดยกรณีเรือดูดทรายนั้น บริษัทฯ ได้นำเรือดูดทราย จำนวน 10 ลำ เข้ามาดำเนินการขุดลอกอ่างเก็บน้ำ โดยมีเอกสารใบอนุญาตใช้เรืออย่างถูกต้องจากกรมเจ้าท่า
กรณีใบอนุญาตให้มีการใช้เครื่องจักรกลหนัก ในการประกอบการขุด – ขนย้ายทราย ทางบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการโรงงาน จาก อุตสาหกรรมจังหวัดระยอง รวมถึงมีใบรับแจ้งการขุดดิน ตามพระราชบัญญัติการขุดดินและถมดิน พ.ศ.2543 ออกให้ เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2566 โดยองค์การบริหารส่วนตำบลสำนักท้อน
สำหรับข้อสงสัยเรื่องแรงงานที่ใช้ภายในโครงการว่าได้มีการขออนุญาตแรงงานต่างด้าวหรือไม่นั้นทางบริษัทได้ชี้แจงว่าแรงงานของบริษัทฯ ไม่มีแรงงานต่างด้าว แต่อย่างใด
ในส่วนของประเด็นเรื่องการนำกรวด หิน ดิน ทราย ที่ได้จากการขุดลอกไปเป็นค่าจ้างในการขุดนั้น เป็นไปตามสัญญาที่ ฐานทัพเรือสัตหีบ ได้ลงนามกับ บริษัท ออสวอล์ด แอนด์ซัน จำกัด โดยได้มีการประเมินราคามูลดินโดยคณะกรรมการกำหนด ราคามูลดินขุดลอกงานจ้างขุดลอกอ่างเก็บน้ำคลองบางไผ่ระยะที่หนึ่งพื้นที่ฝั่งจังหวัดระยองกรณีไม่ใช้งบประมาณ ซึ่งเป็นคณะกรรมการกลาง ซึ่งประเมินราคามูลดินได้เป็นจำนวนเงิน 82,338,312 บาทซึ่งสูงกว่าค่าจ้างเป็นเงิน 16,758,312 บาท โดยฐานทัพเรือสัตหีบจะได้นำเงินดังกล่าวส่งคลังเพื่อเป็นรายได้แผ่นดินในนามกรมธนารักษ์ต่อไป โดยเป็นการดำเนินการตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 อย่างเคร่งครัด
โฆษกกองทัพเรือ ยืนยันว่า การดำเนินการต่างๆ ในโครงการขุดลอกอ่างเก็บน้ำคลองบางไผ่ ดำเนินการด้วยความรอบคอบ โปร่งใส และตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ หน่วยงานที่รับผิดชอบ ไม่ได้ประเมินมูลค่ามูลดินด้วยตัวเอง มีหน่วยราชการหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ร่วมกำหนดราคา ในส่วนวิธีการดำเนินโครงการโดยการนำมูลดินที่ได้จากการขุดลอก เป็นค่าจ้างในการขุดนั้น ไม่ใช่วิธีการใหม่แต่อย่างใด เป็นการดำเนินโครงการที่หน่วยราชการอื่นดำเนินการอยู่ มีระเบียบวิธีการปฏิบัติที่มีการควบคุมอย่างชัดเจน
ทั้งนี้ กองทัพเรือ โดย ผู้บัญชาการทหารเรือได้เน้นย้ำให้หน่วยต่างๆ ของกองทัพเรือ ดำเนินโครงการในการจัดซื้อจัดจ้างด้วยความโปร่งใสมีเอกสารหลักฐานการดำเนินงานอย่างชัดเจน มีขั้นตอนที่ถูกต้องตามกฎหมายโดยคำนึงถึงการใช้งบประมาณให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุดโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ หากประชาชนมีข้อสงสัยหรือพบเห็นการกระทำที่ส่อไปในทางทุจริต การประพฤติมิชอบ หรือ มีความประสงค์ที่จะร้องเรียน ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกองทัพเรือ สามารถแจ้งเบาะแส สอบถามหรือร้องเรียนได้ที่ ศูนย์ประสานราชการใสสะอาดกองทัพเรือ หมายเลขโทรศัพท์ 02 475 8412 และศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์กองทัพเรือหมายเลขโทรศัพท์ 0 2475 4789 ในวันและเวลาราชการ หรือทาง http://www.rongtook.navy.mi.th/
สำนักงานโฆษกกองทัพเรือ