ศาลสั่งจำคุกอีก 4 ปี กู๋เอี่ยว คลับวันพัทยา คดีสมคบฟอกเงิน และยาเสพติด ส่วนภรรยาจำคุก 3 ปี

           จากกรณี เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 65  ตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองสนธิกำลังบุกตรวจค้นจับกุม สถานบันเทิง club one พัทยา จ.ชลบุรี พบยาเสพติดและการกระทำความผิดอื่นภายในร้าน โดยในเหตุการณ์นี้ ได้มีชายคนหนึ่ง สื่อสารด้วยภาษาไทยสำเนียงจีน ออกมาแสดงท่าทีไม่พอใจ และกล่าวพาดพิงเจ้าหน้าที่รัฐหลายหน่วยงาน ต่อมาตรวจสอบทราบว่าบุคคลดังกล่าว คือ นายนิติพัฒน์ โชคชัยธนพร หรือ “กู๋เอี๋ยว” อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นผู้บริหารสถานบันเทิงนั้น โดยภายหลัง นายนิติพัฒน์ หรือกู๋เอี๋ยว ได้ออกมาขอโทษต่อสื่อมวลชน โดยอ้างว่ามีอาการเมาสุรา จึงควบคุมสติไม่ได้

         เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนสอบสวนจนพบว่า นายนิติพัฒน์ หรือกู๋เอี๋ยว ไม่ใช่คนไทย แต่เป็นคนต่างด้าว เชื้อชาติจีน ได้สวมบัตรประชาชนของผู้เสียชีวิตคนไทย มานานกว่า 30 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุม นายนิติพัฒน์ หรือ กู๋เอี๋ยว ในข้อหา “แสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ จดข้อความอันเป็นเท็จลงในประวัติทะเบียนราษฎรอันเป็นเอกสารราชการหรือบัตรประชาชนปลอม” ส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยศาลจังหวัดพัทยา มีความเห็นว่า พยานหลักฐานมีความครบถ้วนและชัดเจน สามารถใช้พิสูจน์ความผิดได้ ทำให้ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 ได้มีคำพิพากษาลงโทษ จำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา อีกทั้ง กระทรวงมหาดไทย ได้มีคำสั่งสำนักทะเบียนท้องถิ่นเทศบาลเมืองตราด ที่ 1/2566 ลงวันที่ 18 มกราคม 2566 ยกเลิก-เพิกถอน รายการทางทะเบียนและบัตรประจำตัวประชาชนของ นายนิติพัฒน์ หรือ “กู๋เอี๋ยว” อีกด้วย

ความคืบหน้า ล่าสุดวันที่ 26 มี.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนจะคดีและข้อพิพาท Club One พัทยา  โดยเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2565 พ.ต.อ.กุลชาต กุลชัย ผกก.สภ.เมืองพัทยา ร่วมกับตำรวจ ปส. ตำรวจสืบสวนภาค2 นำหมายจับศาลจังหวัดพัทยา เลขที่ 145/2565 ลงวันที่ 29 มี.ค. 65 ข้อหา ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 ( คีตามีน ) ไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป ได้กระทำความผิดร้ายแรง เกี่ยวกับยาเสพติด เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน เข้าจับกุม นายนิติพัฒน์ โชคชัยธนพร อายุ 44 ปี เจ้าของสถานบันเทิงชื่อดัง “โบน ผับ พัทยา” (เปลี่ยนขื่อเป็น Club One พัทยา ในภายหลัง) หลังสืบทราบว่า นายนิติพัฒน์ มีส่วนเกี่ยวข้องผัวพันการทำยาเสพติด “แฮปปี้วอร์เตอร์” ที่มาจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนในสถานบันเทิง และตามปาร์ตี้บ้านพูลวิลล่าของนักท่องเที่ยวชาวจีน และจากการสืบสวนขยายผล พบว่า นายนิติพัฒน์ มีส่วนเกี่ยวพันกับเว็ปพนันออนไลน์ อีกด้วย

ต่อมา วันที่ 24 มิ.ย.65 ศาลจังหวัดพัทยา ออกหมายจับ นายนิติพัฒน์ โชชัยธนพร และ นางสปั่นนา โชชัธนพร อายุ 46 ปี ข้อหา “สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงิน เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 5 , 9 , 60 , 61 ” ตามหมายจับศาลเมืองพัทยา ที่ 290/2565 และ 291/2565 จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุม นายนิติพัฒน์ หรือเอี่ยว โชคชัยธนพร และสามารถจับกุม นางสปั่นนนา โชคชัยธนพร ได้ที่บ้านเลขที่ 774/57 ซ.พัฒนาการ 38 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง จ.กรุงเทพมหานคร ตรวจยึดและอายัดทรัพย์นางสปั่นนาฯฃ จำนวน 41 รายการ มูลค่าประมาณ 22 ล้านบาท รวมทรัพย์สินที่ตรวจยึดเครื่อข่าย นายนิติพัฒน์ หรือเอี่ยว โชคชัยธนพร รวมมูลค่าประมาณ 41 ล้านบาท

ล่าสุด ศาลจังหวัดพัทยา มีคำพิพากษาให้ นายนิติพัฒน์ หรือเอี่ยว โชคชัยธนพร ฐานสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด และได้มีการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน จำคุก 1 ปี และฐานสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงิน จำคุก 3 ปี รวมโทษจำคุกจำนวน 4 ปี

ส่วน นางสปั่นนนา โชคชัยธนพร มีความผิด ฐานสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงิน จำคุก 3 ปี

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *