ส.ส.ชลบุรี ยอมทิ้งอาชีพเกษตรกรชาวไร่อ้อย พัฒนาที่ดินสร้างนิคมอุตสาหกรรม สร้างอาชีพ ความเจริญ อ.บ้านบึง
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 12 เมษายน 2567 ที่ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ประชาชน สส.ชลบุรี เขต4 “สส.เป้า”นายจิรวุฒิ สิงห์โตทอง เปิดเผยผู้สื่อข่าว ถึง โครงการนิคมอุตสาหกรรมอมตะนครบ้านบึง เนื้อที่กว่า 2700 ไร่ ตั้งอยู่ ตำบลหนองชาก ตำบลหนองอิรุณ อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ว่า “ ที่ดินแปลงที่ก่อสร้าง นิคมอุตสาหกรรม เป็นพื้นที่ของตระกูลสิงห์โตทอง ก่อนหน้านี้ใช้เป็นพื้นที่เกษตรกรรมปลูกอ้อย ปลูกมัน ปลูกปาล์ม มาต่อเนื่องยาวนานกว่า 50 ปี
ต่อมาตระกูลสิงห์โตทอง ได้ ได้เห็นฟ้องว่าควรพัฒนาพื้นที่ให้เป็นนิคมอุตสาหกรรมบ้านบึง แต่ระหว่างที่ดำเนินการเกิดการรัฐประหาร ในปี 2557 ทำให้โครงการ ได้รับผลกระทบจากนักลงทุนต้อง หยุดชะงัก ต่อมาก็ได้มีการสานต่อโครงการอีกครั้ง แต่ก็ต้องหยุดชะงักเพราะเจอพิษของโรคระบาดโควิด 19 ในปี 2562 ระหว่านั้นก็ใช้พื้นที่ดังกล่าวปลูกอ้อย ปลูกมัน ปลูกปาล์ม เลี้ยงกุ้ง แต่ก็ประสบปัญหาในเรื่องแรงงานที่ใช้ในการเกษตร อีกทั้งเจอปัญหาในด้านราคาผลิตผลทางการเกษตรตกต่ำ สภาพดินฟ้าอากาศไม่เป็นใจ ฝนขาดช่วงแห้งแล้ง ทำให้ การปลูกอ้อยปลูกมัน ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน
ในช่วงปี 2566 นิคม อุตสาหกรรมอมตะนครต้องการขยายพื้นที่ จึงได้มีการตกลงซื้อขายที่ดินพร้อมใบอนุญาตการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม เพราะเล็งเห็นว่าเป็นพื้นที่ใกล้กับท่าเรือแหลมฉบัง อีกทั้งน้ำไม่ท่วมและบรรยากาศโดยรอบดี นักลงทุนต่างชาติให้ความชื่นชอบในทำเลที่ตั้ง จึงเป็นที่มาของ นิคมอุตสาหกรรมอมตะนครบ้านบึง เป็นนิคมอุตสาหกรรมขนาดกลาง มีโรงงานประมาณ 400-500 โรงงาน
ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเคลียริ่งพื้นที่ทั้งหมด เราต้องยอมทิ้งอาชีพเกษตรกรรมที่ทำมากว่า 50 ปี เพราะมองอนาคตว่าจะเกิดผลดีกับประชาชน อำเภอบ้านบึง อำเภอบ่อทอง อำเภอหนองใหญ่ จะมีการจ้างงานกว่า 10,000 อัตรา ทำให้ลูกหลานเราทั้ง3 อำเภอ ไม่ต้องเดินทางไปทำงานไกลได้อยู่กับครอบครัว ในถิ่นเกิด พื้นที่บริเวณใกล้เคียงก็จะ มีมูลค่าเพิ่ม ในการทำธุรกิจ ห้องพัก ห้องเช่า ร้านค้า ร้านขายอาหาร ขายสินค้า หมู่บ้านจัดสรร ฯลฯ ในส่วนที่มีหลายคนอาจจะเกรงว่าโรงงานที่ อยู่ในนิคมอุตสาหกรรมจะสร้างปัญหาให้กับท้องถิ่นนั้นตรงนี้ ทางนิคมเขามีกฎระเบียบในการควบคุมตรวจสอบโรงงานอย่างเคร่งครัด เพราะนิคมอุตสาหกรรมอมตะ เป็นนิคมในระดับเอเชีย คงไม่มาสร้างปัญหาให้กับท้องถิ่นอย่างแน่นอน