ตำรวจไซเบอร์จับสาวแสบ โทรตุ๋นเหยื่อเป็นเจ้าหน้าที่ ของสภาการศึกษากระทรวงศึกษาธิการ อ้างเหยื่อมีสิทธิ์รับเงินบำเหน็จดำรงชีพผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไป ส่งลิ้งมาให้กด เหยื่อข้าราชการบำนาญหลงเชื่อกดลิ้ง สูญเงินกว่า 4 ล้านบาทเศษ

ผู้เสียหายเป็นข้าราชการบำนาญ อายุ 65 ปี ได้มีคนร้ายแจ้งว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของสภาการศึกษากระทรวงศึกษาธิการ แจ้งว่าติดต่อมาเพื่อแจ้งสิทธิในการขอรับเงินบำเหน็จดำรงชีพผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไป โดยจะได้รับเงินบำเหน็จดำรงชีพ จำนวน 200,000 บาท แต่ต้องเข้าไปกรอกข้อมูลยืนยันสิทธิเพื่อขอรับเงินก่อน จากนั้นคนร้ายได้ส่งลิงค์มาให้ทางข้อความ เมื่อกดเข้าไปที่ลิงค์ดังกล่าวพบว่าเป็นไลน์ของกรมบัญชีกลาง จึงเข้าไปกรอกข้อมูลส่วนบุคคลตามที่คนร้ายแนะนำ และให้ทำการแสกนหน้าผ่านโทรศัพท์มือถือจำนวนหลายครั้ง จากนั้นคนร้ายให้เดินทางไปยืนยันตัวตนเพื่อรับเงินบำเหน็จดำรงชีพหน้าตู้เอทีเอ็ม จึงเดินทางไปที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารแล้วเสียบบัตรประจำตัวประชาชนและทำการแสกนหน้าเพื่อยืนยันตัวตนผ่านตู้เอทีเอ็มเมื่อยื่นยันตัวตนเสร็จแล้ว พบว่าไม่ได้รับเงินบำนาญตามที่คนร้ายบอก และพบว่าเงินในบัญชีถูกโอนออกไปกว่า 4 ล้านบาทเศษ


พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. รรท.จตช. , พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รรท.ผบช.สอท. , จึงได้สั่งการ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสวนหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

กระทั่งช่วงเย็นของวันที่ 17 ธ.ค. 67 พ.ต.อ.พิเชียรยศ อรุณพันธกุล ผกก.1 บก.สอท.1 ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจนำหมายจับเข้าควบคุมตัว น.ส.พัชราภรณ์ (ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 30 ปี ชาวสระแก้ว ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์โดยลวงว่าเป็นเจ้าพนักงาน , ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง , ร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์และข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน , ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบและเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ทรัพย์สินของผู้อื่น และ เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้องโดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือคามผิดทางอาญาอื่นใด” โดยควบคุมตัวได้ที่บริเวณริมถนนสาธารณะ ต.วังใหม่ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว จึงนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ชุดสืบสวนทำการสืบสวนขยายผลกับคดีที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *