ผู้ประกอบการรถยกร้องสื่อ ถูกตร.ยศใหญ่โรงพักดัง เรียก 3 หมื่น ค่าส่วยยกรถรายเดือน
ผู้ประกอบการรถยกร้องสื่อ ถูกตร.ยศใหญ่โรงพักดัง เรียก 3 หมื่น ค่าส่วยยกรถรายเดือน
ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก “น.ส.เอ๋” ผู้ประกอบการรถยกอุบัติเหตุแห่งหนึ่งในภาคตะวันออก ร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชนแจ้งว่า ตนเองได้ประกอบกิจการรถยกอุบัติเหตุในโรงพักแห่งหนึ่งมาตั้งแต่ปี 2548 ที่ผ่านมาก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะสถานประกอบการรถยกอุบัติเหตุของตนนั้น ผ่านการตรวจสอบของคณะกรรมการบริหารตำรวจ(กก.ตร)ระดับโรงพัก มีสถานที่จอดเก็บรถยนต์-รถจยย.อุบัติเหตุ รถของกลางคดีเป็นไปตามมาตราฐานระเบียบบังคับของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คิดค่ายกค่าเก็บฝากตามระเบียบของโรงพักและที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีการร้องเรียนในเรื่องการเรียกเก็บค่ายกค่าเก็บฝากเกินราคาแต่อย่างใด
แต่เมื่อไม่นานมานี้ได้มีนายตำรวจยศใหญ่คนหนึ่งในโรงพักที่ตนยกรถอุบัติเหตุอยู่ ได้เรียกตนเข้าไปพบที่ห้องทำงาน พร้อมบอกว่า ตัวเขาอยู่โรงพักแห่งนี้มานาน 6 เดือนทำไมถึงไม่มาดูแลกันเลย และบอกว่าจะเรียกเก็บเงินค่ายกรถจากตนเดือนละ 3 หมื่นบาท เพื่อเอาเงินส่วนนี้มาดูแลโรงพัก ตนเองได้อธิบายไปว่าไม่มีรายได้มากพอที่จะจ่ายได้ เพราะในแต่ละเดือนมีรายได้ค่ายกค่าเก็บฝากเดือนละรวมแล้วประมาณ 4-5 หมื่น ไหนต้องจ่ายค่าจ้างลูกน้อง ค่าน้ำมัน ค่าผ่อนรถยก ค่าเช่าที่ ไม่สามารถจ่ายให้เดือนละ3หมื่นได้ ตำรวจยศใหญ่ได้บอกว่าต่อไปค่ายกรถรายเดือนไม่ต้องไปจ่ายให้ตร.คนใดทั้งนั้นให้รวมมาจ่ายให้ตนเองคนเดียว แต่ตนก็ยืนยันไปว่า 3 หมื่นต่อเดือนสู้ไม่ไหว พร้อมกับยกมือไหว้ ขอร้องให้นายตำรวจยศใหญ่เห็นใจ แต่นายตำรวจยศใหญ่ก็บอกว่าถ้างั้นคุณก็ไม่ต้องยกรถที่โรงพักอีกต่อไป
“น.ส.เอ๋” บอกว่าหลังจากนั้นไม่กี่วันก็มีรถยกเจ้าใหม่ซึ่งมีตำรวจชั้นประทวนคนหนึ่งคนสนิทของตำรวจยศใหญ่ ได้ให้ลูกน้องนำรถยกเข้ามายกรถในโรงพักแข่งกับตนเองอีกเจ้าหนึ่ง โดยบีบให้ตนเองยกรถสลับวันเว้นวัน แต่ก็ยังคงต้องจ่ายเงินให้ตามยอดเดิม นายตำรวจคนนี้บีบตนเองทุกวิถีทางเพื่อให้ตนเองออกไป แต่ถ้าต้องการจะยกรถต่อไปก็ต้องจ่ายส่วยเดือนละ 3 หมื่น ทุกวันนี้ตนเองถูกบีบถึงขนาดมีการสั่งไปที่จนท.ศูนย์วิทยุว่าไม่ต้องเรียกรถยกของตนเองเวลาที่เกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ ตนเองประกอบอาชีพหากินสุจริต ขณะนี้สถานการณ์โรคโควิดแพร่ระบาดเอาตัวเองแทบไม่รอดยังต้องมาเจอเรื่องแบบนี้อีก ตนเองก็จะสู้เพื่อความอยู่รอด โดยจะยื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง รรท.ผบก.ชลบุรี เพื่อให้รับรู้ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง รรท.ผบก.ชลบุรี