หนุ่ม-สาวฉันทนา แจ้งความถูกสาวใหญ่ใช้อุบายชักชวนลงทุนกว่า 27 ล้าน ก่อนเชิดเงินหนี

    เรื่องราวของกลุ่มหนุ่ม-สาวฉันทนาโรงงานศรีราชากว่า 30 คน​ เดินทางเข้าแจ้งความตำรวจ​  หลังถูกสาวใหญ่ชักชวนหลอกให้ลงทุนทำธุรกิจ​ จ่ายค่าตอบแทนคุ้มค่าก่อนเชิดเงินเผ่นหนี​

              เกิดขึ้นเมื่อเวลา 10.15 น.วันที่ 12 ก.ย.64​   น.ส.ปานิดา เกื้อกูล อายุ​ 42​ ปี​ บ้านเลขที่​ 307/131  ม.3​  ต.บ่อวิน​ อ.ศรีราชา​ จ.ชลบุรี​  พร้อมเพื่อนร่วมงาน​และผู้เสียหาย ประมาณ 30 คน​ ได้เดินทางมาที่ สภ.ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เพื่อเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.สมคิด บุญลอย ร้อยเวรสอบสวน สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี หลังถูก นางสาวสุพัตรา สิงห์ดำ อายุ 44 ปี​ บ้านเลขที่​ื149/248 ต.บึง​ ​อ.ศรีราชา​ จ.ชลบุรี​ ชักชวนหลอกให้มาร่วมลงทุนทำธุรกิจเกี่ยวกับการซื้อขายอะไหล่รถและทองคำ แล้วจะได้รับเงินจากการปันผลทุกเดือนในอัตราร้อยละ​  10​ % ก่อนจะหลบหนีหายไป ไม่สามารถติดต่อได้ รวมจำนวนเงินที่​ถูกหลอกเอาไปจำนวนกว่า 27 ล้านบาท   มีเพื่อนในกลุ่มบางรายโดนไปคนเดียวกว่า​ 11​ ล้านบาท

     น.ส.ปานิดา เกื้อกูล เปิดเผยว่า​น.ส.สุพัตรา​   เป็นเพื่อนที่รู้จักเคยทำงานโรงงานที่เดียวกัน​ ได้ออกอุบายมาชักชวนให้ตนเองและเพื่อนๆลงทุนทำธุรกิจร่วมกัน โดยจะจ่ายเงินปันผลให้​ทุก ๆ สิ้นเดือน เริ่มแรกก็ร่วมลงทุนเป็นเงินจำนวนหลักหมื่นก่อน​ ก็ได้รับผลตอบแทน​ แต่พอได้เงินปันผลมา  น.ส.สุพัตรา​ ก็ชวนให้ลงทุนเพิ่ม หลังจากนั้น​น.ส.สุพัตรา​ ก็ชักชวนเพื่อนที่เคยทำงานในโรงงานมาร่วมลงทุนเพิ่มขึ้นอีก  หลังจากลงทุนไปประมาณ​ 6​ เดือน​ น.ส.สุพัตรา​ ก็แจ้งว่าธุรกิจที่ลงทุนไปนั้นขาดทุน โดยไม่ได้บอกสาเหตุ​ เพื่อนที่เอาเงินให้ยืม​ก็พยายามติดตามทวงถามเงินที่ยืมใบ​ แต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยง​ สุดท้ายก็ปิดโทรศัพท์หลบหนีไป  เพื่อนๆที่ไปกู้ยืมเงินมาให้น.ส.สุพัตรา​ ไปลงทุนนั้น​ บางคนไม่ได้รับผลตอบแทนอะไรเลย​  มิหนำซ้ำเงินที่ไปกู้หนี้ยืมสินมาลงทุนกับน.ส.สุพัตรา​ ก็ต้องไปชดใช้หนี้สินอีก

        ผู้เสียหายรายหนึ่งเปิดเผยว่า เริ่มต้นจากตนเองเป็นเพื่อนกับ น.ส.สุพัตรา และเขาเห็นว่าตนเองมีชีวิตที่ย่ำแย่ จึงเสนอตัวมาช่วย​  ด้วยการออกอุบายให้ไปหาเงินมาร่วมลงทุนกับน.ส.สุพัตรา เพื่อจะได้มีเงินปันผลมาแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย  ช่วงแรกมีการปันผลที่น่าพอใจ เพื่อนๆจึงไปหากู้เงิน ไปยืมเงินมาลงทุนเพิ่ม จากครั้งแรกลงทุนไป 40,000 บาทได้เงินปันผลมา 4,000 บาท บางคนลงทุนบางคนก็​  6 เดือน​ บางคนเพิ่งลงทุนไปได้ไม่ถึง1เดือน ก็ถูกเชิดเงินหลบหนีไป

      โดยพฤติกรรมของน.ส.สุพัตรา​ นั้นจะเดินทางมาหาเพื่อนๆถึงที่บ้านพร้อมกับสามี จากนั้นจะพูดจาหว่านล้อมให้เพื่อน ๆ ที่ร่วมลงทุนหลงเชื่อ​ว่าลงทุนแล้วจะได้ผลประโยชน์ตอบแทนคุ้มค่า ทำให้เพื่อนๆที่ถูก​ชักชวนหลงเชื่อ​ร่วมลงทุนไปด้วย โดยครั้งแรกจะให้ลงทุนในวงเงินที่น้อย ๆ ก่อน ซึ่งผลตอบแทนในครั้งแรก ๆ ก็ได้รับส่วนแบ่ง10%  หลังจากได้จ่ายเงินปันผลให้กับผู้เสียหายแล้ว ก็จะชักชวนให้นำเงินที่ได้รับในส่วนที่ปันผลประโยชน์ไปลงทุนเพิ่มทันที ซึ่งจะทำให้ยอดปันผลประโยชน์ในครั้งต่อไปเพิ่มสูงขึ้นไปอีกเรื่อยๆ​  ในช่วงแรก ๆ​ ก็จ่ายเงินปันผลดี ทำให้ผู้เสียหายไปหาเงินลงทุนมาเพิ่ม จนเป็นเงินรวมกันกว่า​  27​ ล้านบาท   แต่ถ้าผู้ลงทุนรายใด​ต้องการถอนเงินลงทุน น.ส.สุพัตรา​ ก็จะบ่ายเบี่ยงว่าเป็นช่วงการแพร่ระบาดไวรัสโควิด19​ บ้างจึงไม่สามารถจ่ายเงินได้​   ในวันนี้จึงมารวมตัวกันมาเข้าแจ้งความกับพนักงาน.สอบสวน​  สภ.ศรีราชา  เพื่อดำเนินคดีกับน.ส.สุพัตรา​ ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน​  เพื่อจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ​ ได้นำตัวมาดำเนินคดีต่อไป

ธนา ธรรมวาจา /เจียรพรรณ สุรนันท์ รายงาน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *