รองผบ.ตร แถลงผลงาน ตร.ภ.2 กวาดล้างรถยนต์ใช้เอกสารปลอมแผ่นป้ายเสียภาษี-ใบขับขี่ ในพื้นที่ภาคตะวันออก
ตามนโยบายของ “บิ๊กเด่น” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. “รองต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร.ผอ.ศปจร.ตร. “รองโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ทำการสืบสวนปราบปรามจับกุม การกระทำความผิดเกี่ยวกับการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อป้องปรามอาชญากรรม และบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในการรักษาทรัพย์สิน(รถยนต์,รถจักรยานยนต์) พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ภ.2 ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ รอง ผบช.ภ.2,
พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รอง ผบช.ภ.2 ,พล.ต.ต.นันทวุฒิ สุรรณละออง รอง ผบช.ภ.2 รรท.ผบก.ภ.จว.ชลบุรี/ ผอ.ศปจร.ภ.2 , พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ,พล.ต.ต.พงศ์พันธ์ วงษ์มณีเทศ ผบก.ภ.จว.ระยอง , พล.ต.ต.ผดุงศักดิ์ รักษาสุข ผบก.ก.จว.จันทบุรี , พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว , พล.ต.ต.ภูมินทร์ สิงหสุต ผบก. .ภ.จว.นครนายก ,พล.ต.ต.วินัย นุชชา ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี ,พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 และ พล.ต.ต.ชูเกียรติ ภูกาบพลอย ผบก.ภ.จว.ตราด พร้อมด้วย ผกก.สืบสวน ทุก ภ.จว.ฯ ในสังกัด ภ.2 ให้บูรณาการกับหน่วยงาน ทุกภาคส่วน จึงได้ประสานงานกับ นายฉัตรชัย อนันตกูล ผู้อำนวยการสำนักงานขนส่งจังหวัดชลบุรี สืบสวนขยายผลการกระทำความผิดเกี่ยวกับการโจรกรรมรถฯ อย่างเป็นระบบ
สืบเนื่องมาจากข้อมูลการบูรณาการสืบสวนของ บช.น. และ บช.ภ.2 ซึ่งพบว่ามีการนำเอกสารราชการปลอม (แผ่นป้ายการเสียภาษีประจำปี และใบขับขี่ เข้ามาใช้ในพื้นที่ภาคตะวันออกจำนวนมาก พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ภ.2 จึงได้เรียกประชุม สั่งการ อย่างเป็นระบบ ให้ทุกหน่วยในสังกัด บูรณาการกำลังในการปฏิบัติการระดมกวาดล้าง ตรวจสอบ ตรวจยึด พิสูจน์ทราบ ผู้ที่สั่งทำแผ่นป้ายแสดงการเสียภาษีปลอมเพื่อนำมาใช้ในพื้นที่ภาคตะวันออก
ผลการปฏิบัติการระดมกวาดล้าง ได้ทำการตรวจสอบเป้าหมาย จนสามารถตรวจยึดรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ที่กระทำความผิดดังกล่าวในเขตพื้นที่ ภ.2 จำนวนทั้งสิ้น 74 คัน ( รถยนต์ 73 คัน , จักรยานยนต์ 1 คัน ) มีรายละเอียด ดังนี้
1. รถที่หนีไฟแนนซ์ หรือรถหลุดจำนำและมีการนำมาขายต่อ ซึ่งต่อมานำมาใช้และไม่สามารถต่อภาษีอย่างถูกต้องได้ จึงได้สั่งทำใบแสดงการเสียภาษีปลอมนำมาใช้กับรถที่ตรวจยึด จำนวน 73 คัน
2. รถที่เป็นของผู้ต้องหาเอง(รถถูกต้องตามกฎหมาย) แต่ขาดการต่อภาษีอย่างถูกต้อง จึงได้สั่งทำใบแสดงการเสียภาษีปลอมนำมาใช้กับรถที่ถูกตรวจยึด จำนวน 1 คัน
3. รถที่ได้มาจากการโจรกรรมหรือมีการแจ้งหายไว้ นำมาใช้และไม่สามารถต่อภาษีอย่างถูกต้องได้ จึงได้สั่งทำใบแสดงการเสียภาษีปลอมนำมาใช้กับรถที่ถูกตรวจยึด ปัจจุบันยังไม่พบแต่อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อดำเนินการต่อไป
4. แบ่งเป็นประเภทความผิดที่ดำเนินคดีต่อรถที่ตรวจยึดไว้ทั้งหมด ประกอบด้วย
4.1 ข้อหาใช้เอกสารราชการปลอมในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ป.อาญา มาตรา 268 จำนวน 50 ราย
4.2 ข้อหาใช้เอกสารราชการปลอมในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนป.อาญา มาตรา 268 และ ข้อหาใช้เครื่องหมาย(ป้ายทะเบียน)ที่นายทะเบียนออกให้สำหรับรถคันหนึ่งกับรถอีกคัน
หนึ่งโดยผิดกฎหมาย พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 มาตรา 67 จำนวน 24 คัน ซึ่งในส่วนนี้จะได้ทำการสืบสวนขยายผล และแจ้งข้อหาเพิ่มเติมให้ครบถ้วนตามกระบวนการต่อไป
จึงขอฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชนว่า การใช้รถยนต์ที่ผิดกฎหมายเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่ สร้างปัญหาและความเดือดร้อนให้กับสังคมโดยส่วนรวม ยกตัวอย่างเช่น
– กรณีการใช้รถผิดกฎหมายเหล่านี้แล้วเกิดทำผิดกฎจราจร เจ้าของรถคันที่แท้จริง ก็อาจได้รับ
– กรณีการใช้รถติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอมไปกระทำผิดกฎหมายต่างๆ เช่นที่พบว่ามีการนำรถสวมทะเบียนไปก่อเหตุปล้นทรัพย์ ในท้องที่ สภ.หนองปรือ จว.ชลบุรี เป็นต้น
– กรณีการนำรถที่สวมซาก ตัดต่อแชสซีส์แล้วติดป้ายภาษีปลอม ทะเบียนปลอมไปหลอกขายผู้อื่น
– กรณีการติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอมแล้วเกิดเหตุชนแล้วหนี ทำให้ไม่สามารถติดตามรถหรือ เจ้าของรถที่แท้จริงอาจได้รับความเดือดร้อนได้ เป็นต้น อีกทั้ง การไม่เสียภาษีประจำปีก็เป็นการเอาเปรียบประชาชนที่เสียภาษีถูกต้องตามกฎหมาย จึงขอเตือนไปยังผู้ที่ใช้ หรือคิดที่จะซื้อรถประเภทนี้มาใช้เนื่องจากเห็นว่าราคาถูก ถ้าหากถูกเจ้าหน้าที่ตรวจพบ นอกจากรถของท่านจะถูกยึดส่งคืนเจ้าของกรรมสิทธิ์แล้ว ท่านยังจะต้องถูกดำเนินคดีหรือหากรถของท่านเกิดอุบัติเหตุ ท่านก็จะถูกดำเนินคดีเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นจึงไม่ควรนำรถผิดกฎหมายและเอกสารราชการปลอมเหล่านี้มาใช้โดยเด็ดขาด
การระดมกวาดล้างในครั้งนี้ ได้มีการบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน ร่วมแก้ปัญหาอย่างจริงจังและต่อเนื่องเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพี่ น้องประชาชน ทั้งนี้ขอความร่วมมือประชาชนในการแจ้งข้อมูล เบาะแส แจ้งข่าวอาชญากรรม ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ หมายเลขโทรศัพท์ 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง