“จ้าวป่า สิงห์โตทอง” เปิดใจ สาเหตุ ย้ายซบ พรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่อยากให้ รมต.เฮ้ง สู้เพียงลำพัง

          เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ศูนย์พักคอย ต.หนองชาก อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี “ส.ส.เป้า” นายจิรวุฒิ สิงห์โตทอง อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยรักไทย อดีตนายกสมาคมกลุ่มอาชีพการเกษตรชลบุรี ได้เปิดเผยผู้สื่อข่าวถึงสาเหตุที่ลาออกจากพรรคก้าวไกล มาสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ และพร้อมที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ชลบุรี ในเขตพื้นที่ อ.บ้านบึง อ.บ่องทอง อ.หนองใหญ่ ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ว่า

“บ้านเมืองตอนนี้มีอะไรบ้างที่เป็นประชาธิปไตย มันผสมผสานกันหมดแล้ว พวกเผด็จการก็เอาพวกประชาธิปไตยไปอยู่ พวกประชาธิปไตยก็เอาเผด็จการไปอยู่ ถามว่าพรรคเพื่อไทยก็เอาพวกเหลืองไปอยู่ พวกเสื้อเหลืองก็เอาพวกเสื้อแดงไปอยู่ ผสมผสานกันหมดยัง” ส่วนสาเหตุที่ตัดสินใจไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาตินั้น “ก่อนอื่นต้องเล่าที่มาที่ไปให้ฟังก่อนว่า การเมืองกลุ่มสิงห์โตทอง เราเดินมาตั้งแต่ปี 2538 ตั้งแต่เป็น สจ.จนมาเป็น ส.ส. อยู่การเมืองมานาน  30 ปี ตามแนวทางของพ่อ (อดีตส.ส.ดรงค์ สิงห์โตทอง) ใครๆ ก็มองว่าผมเป็นคนเสื้อแดง เป็นคนรักประชาธิปไตย ทำงานกับ อดีตนายกทักษิณ มาโดยตลอด วันที่ผมออกจากพรรคเพื่อไทย

เหตุผลง่าย ๆ คือ มาลงการเมืองระดับท้องถิ่นคือ อบจ. ก็ไปขอผู้ใหญ่บอกว่าจะมาขอทำการเมืองท้องถิ่น เนื่องจากพรรคเพื่อไทยไม่ได้ส่งการเมืองท้องถิ่น ก็มาร่วมงานกับพรรคอนาคตใหม่  ซึ่งก็มีกติกาว่าถ้าจะมาทำงานกับเขาก็ต้องลาออกจากพรรคเดิมก็มาอยู่อนาคตใหม่ พรรคอนาคตใหม่ก็ถูกยุบไปอีก เราก็เลยต้องเปลี่ยนมาเป็นคณะก้าวหน้าในการลงสมัคร อบจ.ชลบุรี เมื่อปี 62  เพราะเราเห็นว่าชลบุรีควรเปลี่ยนแปลงได้แล้ว อีกทั้งผมคาดหวังจากพรรคก้าวไกล ก็เลยจะขอลงสมัครส.ส.ชลบุรี เขต.3 ในนามพรรคก้าวไกล ปรากฏว่าพรรคก้าวไกล เขาก็มีกรรมการบริหารพรรค บุคลากรของพรรคชื่อของเราถูกส่งไปแต่สุดท้ายก็ไม่ได้ลง

เมื่อผิดหวังก็จะกลับไปพรรคเพื่อไทย ซึ่งเราก็ทำงานการเมืองกับเขามาโดยตลอด ไปถึงผู้ใหญ่ในพรรคก็บอกกับเราว่า ส.ส.เป้า ถ้าจะเล่นการเมืองพรรคเพื่อไทยต้องไปขอกับนายสนธยา เพราะพรรคเพื่อไทยให้นายสนธยา เป็นคนจัดที่ชลบุรีแล้ว ซึ่งการให้ไปขอนั้นมันเป็นไปไม่ได้ เพราะเราเพิ่งแข่ง อบจ.กับเขามา แข่งเมืองพัทยา และจะให้คนอย่างผมไปขอสนธยา เพื่อมาลงเขต.3 ชลบุรี ผมคิดว่าไม่ขอดีกว่าเสียศักดิ์ศรี ก็กลับมาบอกให้ทุกคนฟังว่าการเมืองงวดหน้า ตระกูลสิงห์โตทอง จะไม่ลงเลือกตั้ง เราอยู่สายประชาธิปไตยมานาน สายก้าวไกลก็ปฏิเสธ สายเพื่อไทยก็ปฏิเสธ

ก็เลยมาคุยกับพี่น้องเกษตรกรในสมาคมกลุ่มอาชีพการเกษตร ก็มีหลายคนเขาเป็นนักเรียนรุ่นเดียวกับ รมต.สุชาติ ชมกลิ่น ก็เลยโทรศัพท์ไปบอกพูดเล่าให้ รมต.สุชาติ พังว่า ตระกูลสิงห์โตทอง ไม่ลงเลือกตั้งส.ส.ชลบุรี จากนั้นผมก็เลยมีโอกาสได้คุยกับ รมต.เฮ้ง  ก็บอกกับผมว่า “ลุงซุ้ยเป็นนักการเมืองมา 4 สมัย  ทำการเมืองให้กับชลบุรีมาในสายเกษตรทุกครั้งที่ “ลุงซุ้ย” ทำงานในสภา ก็จะพูดเรื่องอ้อย มันสำปะหลังอย่างเดียว ก็เลยขอให้ผมมาต่อยอดของพ่อผมอีก 1 สมัย ทำหน้าที่เพื่อพี่น้องเกษตรกรต่อไป

รมต.สุชาติบอกอีกว่า ในสมัยที่ผมไปเป็น เลขาฯรมว.พาณิชย์ เลขารมว.การคลัง ก็ไม่ได้ทำอะไรให้เสียหาย ไม่มีเรื่องทุจริตคอรัปชั่น นี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ สิงห์โตทอง จึงต้องกลับมายืนคู่กับชาวชลบุรีต่อไป  ส่วนเหตุผลอีกข้อหนึ่งก็คือ รมต.สุชาติ บอกว่าผมต้องต่อสู้กับกลุ่มบ้านใหญ่อยู่คนเดียว ผมถูกรับปาก ถูกสัญญาแล้วก็เบี้ยวมาตลอด วันนี้ผมต้องมาสู้ก็อยากจะให้ ส.ส.เป้า มาร่วมสู้กัน ซึ่งมันก็ตรงกับใจผมที่ตั้งกลุ่ม CHANGE CHONBURI ส่วนตัวผมกับ รมต.สนธยา คุณปลื้ม ก็ไม่มีอะไร แต่ตั้งแต่ “กำนันเป๊าะ” นายสมชาย คุณปลื้ม คุมมา 30 ปี เสียชีวิต ตอนนี้ถ้าเราไม่ไปช่วยกับรมต.สุชาติ ทำงานตรงนี้ ถ้าเกิดกลุ่มคุณปลื้มเขาได้กลับมา คุมชลบุรีอีก 30 ปีหรือ 20 ปี คนที่ไม่ก้มหัว ไม่ยินยอมเขาก็คงไม่ต้องเล่นการเมืองต่อไป”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *