ฉาวโฉ่ วงการส่งออกไก่ไปจีน ผู้ประกอบการรายย่อยร้อง ยัดไส้สวมสิทธิ์ คาดจนท.รัฐรู้เห็นเป็นใจ
จากกรณี ผู้ประกอบการเลี้ยงไก่รายย่อย เรียกร้องขอให้ “ลุงตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี “ลุงต่อ”นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ตรวจสอบโควต้าการส่งไก่ไปประเทศจีน เนื่องจากไม่ได้รับความเป็นธรรม
โดยระบุว่ามีข้าราชการระดับบิ๊กบางคน ในกรมปศุสัตว์ ที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการตรวจสอบฟาร์มหรือโรงงานรายย่อย บีบให้ผู้เลี้ยงไก่ ขายสินค้าที่มีอยู่ ในราคาที่ต่ำกว่าตลาด ส่งผลให้เกษตรกรรายย่อยที่เลี้ยงไก่ได้รับความเดือดร้อน ทั้งที่อาชีพการเลี้ยงไก่เป็นธุรกิจที่สร้างรายได้มูลค่ามหาศาลในการส่งไปขายที่ตลาดต่างประเทศ มีการตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ส่งออกไก่ที่มีเส้นสายในกระทรวง อาจจะใช้วิธีการสวมสิทธิ์โควต้าในการส่งออกไก่ และยังมีการตั้งข้อสังเกตอีกว่า อาจจะมีข้าราชการระดับบิ๊กบางคนในกรมปศุสัตว์ เข้าไปหาประโยชน์มีเอี่ยวในการดำเนินการธุรกิจส่งออกไก่
สำหรับตลาดการส่งออกไก่รายใหญ่คือ ตลาดในประเทศจีน ปัจจุปันมีกลุ่มทุนจีนเข้ามากว้านซื้อไก่ในประเทศไทย เพื่อส่งไก่ไปยังประเทศจีน โดยใช้วิธีสวมสิทธิ์โควต้าผู้ส่งออกในประเทศไทย การใช้วิธีการดังกล่าวจึงสุ่มเสี่ยงกับการผิดเงื่อนไขและข้อตกลงระหว่างไทย-จีน โดยกลุ่มทุนจีนจะใช้วิธีการโอนเงินทุนมาให้ผู้ได้รับโควต้าส่งออกในประเทศไทยกว้านซื้อไก่ก่อนจะใช้โควตาของบริษัทคนไทยส่งไปประเทศจีน สำหรับรูปแบบของการสวมสิทธิ์นั้นจะใช้วิธีแจ้งไปให้โรงงานที่กรมปศุสัตว์ส่งจนท.ไปตรวจ ถ้าพบว่ากระบวนการผลิตไม่ได้มาตรฐานจะสั่งให้หยุดผลิตก่อนจะนำโควต้าของโรงงานที่ถูกสั่งให้หยุดผลิตไปให้โรงงานในเครือข่ายผลิตแทน โดยจะอ้างเหตุผลว่าเพื่อไม่ให้กระทบต่อโควต้าการส่งออก การกระทำดังกล่าวทำให้โรงงานของคนไทยที่เป็นผู้ประกอบการส่งออกไก่รายได้รับความเสียหาย อีกทั้งการพิจารณาการจัดสรรโควต้าส่งออกของกรมปศุสัตว์นั้นผู้ส่งออกรายย่อยต่างไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากมีการจัดสรรโควต้าส่งออกให้น้อยเกินไป ส่งผลให้โรงงานรายย่อยมีผลประกอบการไม่คุ้มทุน
ผู้ประกอบการส่งออกไก่รายย่อย จึงร้องเรียนเรื่องดังกล่าวผ่านสื่อมวลชน เพื่อให้ “ลุงตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี “ลุงต่อ”นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ดำเนินการตั้งคณะกรรมการมาตรวจสอบการทำงานของกรมปศุสัตว์ในเรื่องการจัดสรรโควต้าส่งออกไก่ทั้งหมด
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด พบเบาะแสว่ามี ผู้ส่งออกไก่ บางรายอาจจะสวมสิทธิ์โควตาในการส่งออกไก่ไปยังต่างประเทศ โดยมีการตั้งข้อสังเกตุว่าอาจมีข้าราชการระดับบิ๊กบางคนในกรมปศุสัตว์ ดำเนินการธุรกิจส่งออกไก่เอง โดยที่ ผู้ทรงอิทธิพลในกระทรวงเกษตรฯ อาจรู้เห็นเป็นใจ ทำให้กลายเป็นประเด็นร้อน ในวงการส่งออกไก่-ชิ้นส่วนไก่ ไปต่างประเทศ สาเหตุดังกล่าวจึงเป็นเหตุให้กลุ่มผู้เลี้ยงไก่ ได้ออกมาเรียกร้องให้ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ “ลุงต่อ” นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ดำเนินการตรวจสอบ ความไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับการทำงานของ “กรมปศุสัตว์”
ทั้งนี้กรมปศุสัตว์ ในฐานะเป็นหน่วยงานต้นน้ำ ที่ต้องทำหน้าที่ดูแล และให้ความช่วยเหลือ ผู้เลี้ยงไก่ รวมทั้งสนับสนุนการส่งออกชิ้นส่วนไก่ไปยังต่างประเทศ กลับกลายเป็นตัวสร้างอุปสรรคที่ทำให้ผู้เลี้ยงไก่เดือดร้อนเสียเอง อีกทั้งพฤติการณ์ของข้าราชการกรมปศุสัตว์ “บางคน” ที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการตรวจสอบฟาร์มหรือโรงเชือดไก่ นอกเหนือจากจะไม่ส่งเสริมสนับสนุนแล้ว ยังใช้อำนาจข่มขู่คุกคามจนทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่รายย่อย ไม่สามารถส่งผลิตภัณฑ์ของตัวเองไปจำหน่ายยังต่างประเทศได้ ทั้งที่อาชีพการเลี้ยงไก่ เป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ให้กับประเทศอย่างมหาศาล และอยู่ในช่วงฟื้นตัวจากโควิด ทำให้มีออเดอร์รับซื้อจากทั่วโลกหลั่งไหลมายังประเทศไทยจำนวนมาก
ตลาดการส่งออกไก่ที่ใหญ่ที่สุดของไทยคือประเทศจีน มีข้อตกลงระหว่างรัฐไทย-จีน การปล่อยปละละเลยในเรื่องสวมสิทธิ์โควต้าผู้ส่งออก ที่ขึ้นทะเบียนไว้กับทางการจีน โดยใช้กลไกอำนาจของจนท.บางรายในกรมปศุสัตว์ หรือบล็อกกระบวนการผลิตในโรงงาน อ้างว่าไม่ได้มาตรฐาน ก่อนที่จะไปใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทในเครือข่าย สวมแทนโควตาเพื่อส่งไก่หรือชิ้นส่วนไก่ โดยนำผลิตภัณฑ์มาจากต่างประเทศมารีแพ็คโดยใช้โควตาของโรงงานที่สามารถส่งออกได้ โดยจนท.ปศุสัตว์บางคน ช่วยดำเนินการเรื่องเอกสารต่างๆให้ โดยที่เจ้าของโควตาไม่รู้ตัวว่าถูกสวมสิทธิ์ ความมาแดงเมื่อทางการจีนตรวจสอบพบความผิดปกติของยอดนำเข้าไก่จากโรงงานในไทยว่าสูงผิดปกติในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา จึงได้สั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง โรงงานผู้ประกอบการรายย่อย ซึ่งถูกสวมสิทธิ์ถูกแอบอ้างชื่อ จึงถูกตรวจสอบ และสุ่มเสี่ยงที่จะถูกตัดสิทธิ์การส่งออก ทั้งที่การจัดสรรโควตาส่งออกไก่ของ กรมปศุสัตว์ ก็ไม่เป็นธรรมกับผู้ส่งออกรายย่อยอยู่แล้ว ยังมีกระบวนการแก๊งงาบโควต้าอีก