คดีจับกุมผู้ประกอบการส่งออกไก่เถื่อน จี้ ผบช.ภ.2 สอบสวนเช็คบิลผู้ร่วมขบวนการ ติดตามยึดตู้สินค้าชิ้นส่วนไก่ ที่ผ่านศุลกากรไปแล้ว มาตรวจสอบ
จากกรณี “ผกก.โจ”พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผกก.สืบสวน ภ.จว.ชลบุรี ได้จับกุม ผู้ประกอบการไก่เถื่อน จีนแคระ ซึ่งได้มีการลักลอบขนสินค้าจากบริษัทหัวหินอินเตอร์ฟู๊ด ที่ทำการรีแพค สวมสิทธิ์ ของ บริษัทเบทาโกร ตามรูปที่แนบ ใบHC (HC คือ health certificate ใบรับรองคุณภาพของสินค้าที่จะส่งออกไปยังต่างประเทศ ที่ออกโดยกรมปศุสัตว์
ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องส่งออกไก่ ได้ตั้งข้อสังเกตุว่า 1.ในใบHC ชื่อผู้ผลิตเป็นสินค้าของบริษัทเบทาโกร แต่ผู้ส่งออกเป็นบริษัท ทศทิศ เทรดดิ้ง (บริษัทตั้งอยู่ที่ 49/288 หมู่6 ตำบล ลาดสวาย อำเภอ ลำลูกกา จังหวัดปธุมธานี ) และมีการไปรับของที่ บริษัทหัวหิน อินเตอร์ฟูดส์ อำเภอ กระทุ่มแบน จังหวัด สมุทรสาคร ซึ่งโดยปกติแล้ว บริษัทเบทาโกร จะเป็นผู้ส่งออกสินค้าของตัวเองแต่เพียงผู้เดียว 2.เลขที่ลงไว้ไม่มีซีลล็อค DLD ของกรมปศุสัตว์ (DLD คือ ซีลล็อคตู้คอนเทนเนอร์ที่สามารถเบิกจากกรมปศุสัตว์ได้เท่านั้น) แต่กระบวนการนี้เลี่ยงการตรวจสอบ โดยไม่ใช้เลข DLD เพราะต้องการเลี่ยงการตรวจสอบย้อนหลัง เนื่องจากการขอ DLD ได้นั้น จะมีบุ๊คล็อกว่า เจ้าหน้าที่คนไหนเป็นคนถือ 3.สินค้าที่มาจากล็อตการผลิตสินค้า 1065162 ( 10 คือเลขประจำตัวการส่งออกของโรงงาน 65 คือปีที่ผลิตสินค้า 162 คือวันนั้นๆที่ผลิต) ข้อสังเกตคือ ใช้ล็อตการผลิตของปีเก่า เพื่อไม่ให้เจ้าของโรงงานรู้ตัวและเลี่ยงการตรวจสอบ 4. ใบHC ซึ่งออกโดยกรมปศุสัตว์ ซึ่งจะต้องมีเจ้าหน้าที่ของกรมปศุสัตว์ลงลายมือชื่อ ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ซึ่งเป็นเจ้าของลายมือชื่อดังกล่าวไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในห้อง HC เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 2 ปี และในวันที่ลงในใบHC เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวก็ไม่ได้มาปฏิบัติหน้าที่ในห้อง HC
ข้อสังเกตุในเบื้องต้น ทำให้เชื่อได้ว่า น่าจะมีการปลอมแปลงลายเซ็น ในห้อง HC เพราะว่าตามขั้นตอน ต้องมี Electronic Health Cerfiticate (E-HC ต้องมีแสกนใบHc แล้วจึงสามารถส่งไปจีนทางอีเมล) ที่จะส่งไปประเทศจีน และมีเพียงคนเดียวในห้อง HC ที่มี Username และ Password นั้น ถ้าดูจากหลักฐานตารางเรือ มีการเคลียร์สินค้าเข้าไปในประเทศจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว( ดังรูปที่แนบ) แสดงให้เห็นว่า ต้องมีเจ้าหน้าที่ข้าราชการระดับบิ๊ก ที่มีอำนาจสามารถสั่งการได้ทั้งด่านกักกันสัตว์แหลมฉบัง และห้อง Hc ซึ่งเป็นหน่วยงานภายในของกรมปศุสัตว์
การตั้งข้อสังเกตุนี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งจากการรายงานของสาย โดยในวันพรุ่งนี้จะเปิดชื่อและหลักฐานแนบประกอบ
อยากจะให้ “บิ๊กอิท” พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธสารรณชัย ผบช.ภ.2 ลงมาสอบสวน ติดตามจับกุมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฏหมาย ชี้ การส่งออกชิ้นส่วนตีนไก่ แบบสวมสิทธิ์โควต้า นอกจากจะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ยังสร้างความเสียหายให้ต่อเศรษกิจของประเทศ
ที่สำคัญ “ผกก.โจ” พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผกก.สส.ภ.จว.ชลบุรี จะต้องดำเนินการสืบสวน หาต้นตอผู้กระทำความผิดในเรื่องนี้ เพื่อนำตัวมาดำเนินคดี อีกทั้งยังต้องติดตามไปตรวจเช็คสินค้าอีกจำนวน1 ตู้ ที่เชื่อว่าขณะนี้สินค้าตู้ดังกล่าวได้ผ่านด่านศุลกากรไปแล้ว เพื่อดำเนินการอายัดตู้สินค้ามาตรวจสอบเพื่อความถูกต้อง เนื่องจากผู้ประกอบการได้มีการจองเรือที่จะออกจากท่าเรือแหลมฉบังในวันที่ 29 เพื่อขนส่งปลายทางไปประเทศจีนโดยชิปปิ้งเจ้าเดียวกัน
ผู้เชี่ยวชาญส่งออกไก่กล่าวอีกว่า “อยากถามเจ้าหน้าที่ในกรมปศุสัตว์ด้วยว่าตู้สินค้า ที่เข้าประเทศจีนแล้ว ที่ผ่านมา สามารถผ่านเข้าไปได้อย่างไร”