กรมปศุสัตว์ ยืนยันไม่มีกระบวนการสวมสิทธิ์ชิ้นส่วนไก่ส่งออก มีระบบคุมเข้มห่วงโซ่การผลิต

       นายสมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์เปิดเผยว่า  จากกรณีที่มีข่าวเกี่ยวกับการลักลอบสวมสิทธิ์ การส่งออกชิ้นส่วนไก่ระบุว่ามีการนำชิ้นส่วนไก่ที่ไม่ได้มาตรฐาน  มาปลอมแปลงใบรับรองสุขอนามัยเพื่อส่งออกไปประเทศจีน  โดยอ้างว่าเป็นกระบวนการที่เจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ร่วมด้วย  ขอย้ำว่า กรมปศุสัตว์ ได้มีการกำกับดูแลตลอดห่วงโซ่การผลิต สามารถตรวจสอบย้อนได้ทุกขั้นตอน  เป็นไปตามกฎหมายและเงื่อนไขของประเทศคู่ค้า โดย 5 เดือนแรกของปี 2566 ยอดส่งออกเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า สอดคล้องกับจำนวนไก่เนื้อเข้าเลี้ยง

       นายสัตวแพทย์สมชวน กล่าวอีกว่าที่ปรากฏเป็นข่าวที่ปรากฏในสื่อออนไลน์ว่า มีกระบวนการสวมสิทธิ์การส่งออกชิ้นส่วนไก่ ซึ่งมีการนำชิ้นส่วนไก่ที่ไม่ได้มาตรฐานเตรียมส่งออกไปยังจีน โดยปลอมแปลงใบรับรองสุขอนามัย (Health Certificate) ซึ่งกระบวนการดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์เกี่ยวข้อง พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า การจับกุมการลักลอบขนย้ายชิ้นส่วนไก่ซึ่งเตรียมส่งออกได้ที่จังหวัดชลบุรี ส่งผลให้ผู้กระทำความผิดไม่สามารถส่งออกได้ จึงต้องมาประกาศขายภายในประเทศผ่านช่องทางออนไลน์ นอกจากนี้ยังระบุว่า ยอดการส่งออกชิ้นส่วนไก่ไปยังประเทศจีนของปีที่แล้วกับปีนี้สูงขึ้นกว่า 100% ซึ่งสวนทางกับจำนวนลูกไก่ลดลงจึงเชื่อว่ามีกระบวนการสวมสิทธิ์ส่งออกนั้น

ในนามกรมปศุสัตว์ ขอยืนยันว่า กระบวนการสวมสิทธิ์การส่งออกชิ้นส่วนไก่ไม่สามารถกระทำได้ เนื่องจากในกระบวนการผลิตและส่งออกชิ้นส่วนไก่ตั้งแต่การฆ่าและชำแหละ การขนส่ง จนกระทั่งการออกใบรับรองสุขอนามัย (Health Certificate) มีการกำกับดูแลของเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ผู้รับผิดชอบในแต่ละขั้นตอน ตลอดห่วงโซ่การผลิต และมีการหมุนเวียนเจ้าหน้าที่รับผิดชอบประจำโรงฆ่าไก่ส่งออกเป็นระยะ สามารถตรวจสอบย้อนได้ทุกขั้นตอน ซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย มาตรฐานสากล และเงื่อนไขของประเทศคู่ค้า อีกทั้งข้อมูลปริมาณลูกไก่เนื้อที่เข้าเลี้ยงในประเทศไทยไม่ได้ลดลงตามที่ระบุในข่าวแต่อย่างใด

ส่วนที่ตามข่าวปรากฏชื่อสัตวแพทย์ของกรมปศุสัตว์เป็นผู้ลงนามใบรับรองสุขอนามัย (Health Certificate) ที่มีการปลอมแปลงนั้น สัตวแพทย์ผู้ถูกปลอมแปลงลายมือชื่อได้ลงบันทึกประจำวันไว้กับพนักงานสอบสวนว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและลายมือชื่อดังกล่าวไม่ใช่ของตนเองแต่อย่างใด อธิบดีกรมปศุสัตว์ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยมอบหมายให้ด่านกักกันสัตว์ชลบุรี ทำหนังสือขอข้อมูล พยาน เอกสาร และหลักฐานต่าง ๆ ไปยังตำรวจชุดจับกุมของกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ได้แก่ หนังสือ Health Certificate ที่ปลอมแปลง ใบอนุญาตนำสัตว์และซากสัตว์ออกนอกราชอาณาจักร (ร.9) ใบขนสินค้าขาออก และอีเมล์ที่ทางการจีนยืนยันว่า มีเจ้าหน้าที่ไทยส่งไปเพื่อมาใช้ประกอบการพิจารณาตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ที่เกี่ยวข้อง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ตอบเป็นหนังสือมายังด่านกักกันสัตว์ชลบุรีว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง ไม่มีเอกสารข้อมูลดังกล่าวแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามหากกรมปศุสัตว์ตรวจสอบพบเจ้าหน้าที่ของกรมปศุสัตว์มีส่วนเกี่ยวข้องในภายหลัง จะดำเนินการสอบสวนและลงโทษตามระเบียบราชการอย่างเด็ดขาดต่อไป

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *